Last updated: 17 ก.ย. 2568 | 6 จำนวนผู้เข้าชม |
ผู้ปกครองหลายท่านมีความกังวลใจเมื่อลูกกินน้อยและงอแงทุกครั้งที่ต้องทานข้าว ตัวเล็กกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องหรือระบบย่อยอาหารที่ไม่สมดุลในทางแพทย์แผนจีนอาการเบื่ออาหารของเด็กจัดอยู่ในกลุ่มอาการน่าไต (纳呆)เด็กกลุ่มนี้จะมีลักษณะไม่ค่อยเจริญอาหาร รับประทานอาหารได้น้อยซึ่งมักมีรูปร่างผอม ใบหน้าซีดเหลือง มีถุงใต้ตา ขับถ่ายไม่ดีถ่ายเหลวไม่เป็นก้อนซึ่งเป็นกลุ่มอาการของชี่ม้ามพร่อง
ความสัมพันธ์ของม้ามและอาการเบื่ออาหาร
ม้ามตามทฤษฎีแพทย์แผนจีนมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอวัยวะกระเพาะอาหารและระบบทางเดินอาหาร มีหน้าที่ควบคุมการย่อยและลำเลียงสารอาหารและน้ำไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย (《素问·痿论》:“脾主身之肌肉。”) จึงถูกขนานนามว่าเป็นทุนหลังกำเนิดของชีวิต(脾为后天之本) นอกจากการดูแลระบบย่อยอาหารแล้ว ม้ามยังมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้เลือดออกและเปิดทวารที่ปาก กล่าวคือ หากม้ามแข็งแรง เด็กจะมีความอยากอาหารและระบบย่อยทำงานได้ดี โดยปกติอวัยวะภายในของเด็กยังเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ ทำให้ม้ามเป็นหนึ่งในสามอวัยวะที่มักเกิดภาวะชี่พร่องได้ง่ายในเด็ก (ได้แก่ ม้าม ปอด ไต) หากเด็กมีพื้นฐานทุนก่อนกำเนิดไม่เพียงพอหรือไม่แข็งแรง(ไตพร่อง)ร่วมกับโภชนาการที่ไม่ดี พฤติกรรมการทานที่ไม่เหมาะสม เช่น ชอบทานอาหารที่มีรสหวาน ของทอด ของมัน และอาหารที่มีฤทธิ์เย็นบ่อยๆ จะส่งผลต่อทุนหลังกำเนิด ก่อให้การทำงานของม้ามอ่อนแอ มีอาการม้ามพร่องเกิดความชื้นสะสม ระบบการย่อยอาหารไม่ดีเป็นสาเหตุของอาการเบื่ออาหารนั่นเอง
วิธีรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน
1.ทานยาจีน
2.ฝังเข็ม รมยา ครอบแก้ว ติดเข็มหู หรือการฝู่เทีย(การแปะยาสมุนไพรลงบนจุดฝังเข็ม)
3.ทุยหนา
โดยการรักษาจะมุ่งเน้นในการบำรุงกระเพาะอาหารและม้าม ขับความชื้นช่วยการขับลมและการย่อยอาหาร โดยจุดฝังเข็มที่ใช้บ่อยจะมีดังนี้
1.จุดผีซู (脾俞,BL20) มีสรรพคุณเสริมบำรุงม้าม ใช้วิธีกระตุ้นบำรุง รมยาหรือติดแผ่นฝู่เทีย
2.จุดเว่ยซู (胃俞,BL21)มีสรรพคุณเสริมบำรุงกระเพาะ ใช้วิธีกระตุ้นบำรุง รมยาหรือติดแผ่นฝู่เทีย
3.จุดจงหว่าน(中脘,RN12) เป็นจุดอวัยวะหน้าของกระเพาะอาหาร胃之募穴และจุดอิทธิพลต่ออวัยวะกลวง八会穴之腑会มีสรรพคุณบำรุงกระเพาะและม้าม ขับลมช่วยย่อย ลำเลียงสารอาหารดีขึ้นด้านบนขับของเสียลงล่าง รักษาอาการเบื่ออาหารได้ดี ใช้วิธีกระตุ้นบำรุงหรือรมยา
4.จู๋ซานหลี่(足三里,ST36)มีสรรพคุณช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร, ปรับสมดุลร่างกาย, เสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
5.จุดซานอินเจียว (三阴交,SP6) เป็นจุดตัดของเส้นลมปราณอินทั้ง3และอยู่บนเส้นลมปราณม้ามมีสรรพคุณบำรุงเลือดลม บำรุงม้ามขับความชื้น
ทั้งนี้นอกเหนือจากการรักษาแล้วนั้นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการสร้างสภาพแวดล้อมระหว่างการทานอาหารก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรสังเกตุและปรับพฤติกรรมการทานขนมให้น้อยลงทั้งขนมหวานและขนมกรุบกรอบเพิ่มการทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้ไม่อิ่มก่อนมื้ออาหารและยังช่วยในเรื่องการไม่เพิ่มความชื้นให้ร่างกายซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการย่อยอาหารและการทำงานของม้าม พร้อมทั้งปรับสภาพแวดล้อมขณะทานอาหารให้ผ่อนคลายเปลี่ยนการบังคับให้ทานเป็นการลองชิมไปด้วยกัน พูดคุยและถามว่ารสชาติเป็นยังไงและค่อยๆหาสิ่งที่เขาชอบ จากนั้นสังเกตน้ำหนักของลูกน้อยโดยใช้เกณฑ์วัดที่เป็นมาตรฐานเพื่อดูว่าความรู้สึกที่ว่าลูกตัวเล็กกว่าเพื่อนนั้นความจริงแล้วถือว่าตกเกณฑ์หรือเปล่า เพราะปัจจุบันเด็กๆมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักตัวที่มากและตัวสูงใหญ่กว่าปกติ หากลูกของเราตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่ยังอยู่ในเกณฑ์นั้นก็ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานน้ำหนักตามปกติค่ะ
(กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์อายุของเด็ก0-5ปี และ 6-19ปี/ อ้างอิงจากสำนักโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข)
จุดผีซู (脾俞,BL20) อยู่บริเวณหลัง ระดับขอบล่างของกระดูกสันหลังส่วนอกข้อที่ 11 (T11) ห่างจากแนวกึ่งกลางลำตัว 1.5 ชุ่น (ครึ่งหนึ่งจากแนวกลางถึงขอบสะบักด้านใน)
จุดเว่ยซู (胃俞,BL21) อยู่บริเวณหลัง ระดับขอบล่างของกระดูกสันหลังส่วนอกข้อที่ 12 (T12) ห่างจากแนวกึ่งกลางลำตัว 1.5 ชุ่น (ครึ่งหนึ่งจากแนวกลางถึงขอบสะบักด้านใน)
จุดจงหว่าน(中脘,RN12) อยู่บริเวณ แนวกึ่งกลางลำตัว อยู่เหนือจากสะดือ 4 ชุ่น
จู๋ซานหลี่(足三里,ST36)อยู่บริเวณหน้าแข้งด้านนอก ใต้รอยบุ๋มหัวเข่าลงมา 3 ชุ่น ห่างจากกระดูกหน้าแข้ง 1 นิ้วมือ
จุดซานอินเจียว (三阴交,SP6) อยู่บริเวณเหนือยอดตาตุ่มด้านใน 3ชุ่น ชิดขอบด้านหลังของกระดูก tibia
8 ก.ย. 2568