การดูแลรักษาอาการตกขาวในทางการแพทย์แผนจีน

Last updated: 23 ก.ย. 2568  |  198 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การดูแลรักษาอาการตกขาวในทางการแพทย์แผนจีน

ในทางการแพทย์แผนจีน “ตกขาว (带下)” ไม่ใช่แค่บ่งบอกความผิดปกติของโรคทางนรีเวชเท่านั้น แต่ถือว่าเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงสมดุลของอวัยวะภายในโดยเฉพาะ ม้าม ไต ตับ และความสมดุลของ ชี่ เลือด อิน หยาง เป็นต้น ซึ่งตกขาวที่ผิดปกติสามารถสะท้อนถึงหลายภาวะ ได้แก่

1. ม้ามพร่อง (脾虚)

อาการ: ตกขาวสีขาว ปริมาณมาก ลักษณะเหลวใส ไม่มีกลิ่น ร่วมกับมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องอืด แน่นท้อง เป็นต้น

สาเหตุ: ม้ามอ่อนแอ ไม่สามารถลำเลียงอาหารและของเหลวได้

2. ไตหยางพร่อง (肾阳虚)

อาการ: ตกขาวสีขาวขุ่น ปริมาณมาก ร่วมกับมีอาการหนาวง่าย ปวดเอว ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น

สาเหตุ: ไตหยางไม่พอ ความอบอุ่นในร่างกายลดลง ทำให้ความชื้นสะสม

3. ความชื้นร้อนเคลื่อนลงสะสมเบื้องล่าง (湿热下注)

อาการ: ตกขาวสีเหลืองหรือเขียว ลักษณะเหนียวข้น มีกลิ่นเหม็น คันในช่องคลอด เป็นต้น

สาเหตุ: ความชื้นและความร้อนสะสมบริเวณอุ้งเชิงกราน มักสัมพันธ์กับการทานอาหารรสเผ็ด ของมัน ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการติดเชื้อ

4. ชี่ตับติดขัด (肝郁气滞)

อาการ: ตกขาวปริมาณไม่มาก แต่เป็นๆหายๆ ร่วมกับอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย เจ็บตึงเต้านม ประจำเดือนผิดปกติ เป็นต้น 

สาเหตุ: อารมณ์ความเครียด ทำให้ตับควบคุมการไหลเวียนชี่ไม่ได้

วิธีการรักษาตามแนวทางแพทย์แผนจีน

การรักษาจะแตกต่างกันตามสาเหตุและการวินิจฉัยแยกแยะโรค เช่น ม้ามพร่องใช้สมุนไพรเสริมบำรุงม้ามไตหยางพร่องใช้สมุนไพรอบอุ่นไต ร้อนชื้นสะสมใช้สมุนไพรขจัดร้อนชื้นชี่ตับติดขัดใช้สมุนไพรช่วยระบายชี่ นอกจากนี้ยังมีการใช้การฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลชี่ เลือด เป็นต้น

วิธีป้องกันตามแพทย์แผนจีน

1. ดูแลอาหาร หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด ของหวาน อาหารรสเผ็ด อาหารสดดิบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มเย็นจัด เป็นต้น

2. รักษาความอุ่นโดยเฉพาะบริเวณเอวและท้องน้อย ไม่ควรนั่งบนพื้นเย็นหรือแช่น้ำนาน

3. ควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด 

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

หมายเหตุ

หากตกขาวมีสี กลิ่น หรืออาการผิดปกติ (เช่น คัน แสบ ปวดท้องน้อย) ควรตรวจเพิ่มเติมทางการแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อแยกการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก่อนการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน เพื่อประสิทธิผลในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น

____________________________________________________

บทความโดย
แพทย์จีน ปะการัง เขตคาม (หมอจีน ข่าย ซิน)
凯心 中医师
TCM. Dr. Pakarung Khetkam (Kai xin)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้