ปวดเอวอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

Last updated: 23 พ.ค. 2568  |  8 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปวดเอวอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

ปวดเอว อย่าคิดว่าไม่สำคัญ

อาการปวดหลังปวดเอวเป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ในทุกช่วงวัยมีประสบการณ์กันมาแทบจะทุกคน  อาการปวดนั้นเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น  แต่ลักษณะของอาการปวดอาจไม่ได้สะท้อนถึงต้นตอของปัญหาได้โดยตรง  ปัญหาเหล่านั้นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำถึงจะบรรเทาอาการปวดเหล่านี้ได้  ในทางการแพทย์แผนจีนนั้นมองเรื่องการปวดหลังปวดเอวจัดอยู่ในกลุ่มโรค “ปี้เจิ้ง”(痹症) เกิดจากภาวะชี่ไหลเวียนติดขัด  หรือมาจากการทำงานของตับไตบกพร่อง  หรือเลือดและชี่ไหวเวียนติดขัดจากความเย็น และความชื้นมากระทบที่บริเวณหลัง  ทำให้เกิดเป็นอาการปวดขึ้นมาได้  การรักษาของแพทย์แผนจีน จะใช้การนวด การฝังเข็ม และการทานยาจีนไปบำรุงตับไต  บำรุงเลือดและชี่ ทะลวงชี่  สลายความเย็นและความชื้น  เพื่อรักษาอาการเหล่านี้

ภาวะอาการปวดหลังปวดเอวเหล่านี้ เป็นสัญญานเตือนว่า

 1. ร่างกายของเราอาจมีการทำงานของกล้ามเนื้อมากเกิดไป  กล้ามเนื้อเอว กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขาที่แข็งเกร็ง  มาจากการยืนการเดินหรือการนั่งเป็นระยะเวลานาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อมีการแข็งเกร็ง  ไม่มีความยืดหยุ่นที่ดีพอ  

2. มีความเย็นมากระทบจากการที่นอน หรือนั่งในตำแหน่งที่มีลมจากเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดพัดลมมากระทบเป็นระยะเวลานาน ๆ 

3. มีภาวะร่างกายอ่อนแอ  พักผ่อนไม่เพียงพอ  ทำให้กล้ามเนื้อขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินบางชนิด ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่ดีพอ  เช่น การดื่มน้ำน้อย  การนอนดึกบ่อย ๆ การกินแต่อาหารสำเร็จรูปเป็นประจำ 

 4. มีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ  ประจำเดือนมาไม่ปกติ  จะทำให้มีอาการปวดหลังปวดเอวได้ง่าย  มักจะมีอาการในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน  

5. มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม หรือกระดูกสันหลังคดจากการยกของหนัก หรือกรรมพันธุ์  ในคนที่ต้องใช้แรงงานแบกหาม หรือ ทำงานหนักตั้งแต่เด็ก  หรือเป็นมาตั้งแต่เกิดจะมีอาการปวดหลังปวดเอวได้ง่าย  เวลานั่งนาน ๆ หรือเดินเยอะ ๆ มักจะมีอาการปวดหลัง  

6. เป็นเนื้องอก หรือมีอาการอักเสบของอวัยวะภายใน เช่น เนื้องอกในมดลูก  ลำไส้อักเสบ กระเพาะอาการอักเสบ กรดไหลย้อน โรคเหล่านี้ถ้ารักษาไม่หาย  อาจมีอาการปวดหลังปวดเอวร่วมด้วยได้   

7. ภาวะเท้าแบน หรือข้อเข่าเสื่อม บางคนที่มีปัญหาเหล่านี้จะส่งผลถึงการปวดหลังปวดเอวได้ถ้ามีอาการยืนหรือเดิน เป็นระยะเวลานาน ๆ  เมื่อพัก หรือนอน อาการก็หายได้เอง 

8. ถ้ามีอาการปวดหลังชาร้าวลงขา  อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้

อาการเหล่านี้บางทีถ้ารีบรักษาอาการก็จะหายได้ไว  ถ้าปล่อยไว้นาน  อาจจะมีปัญหาอย่างอื่นตามมาได้  เมื่อมีอาการปวดแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้ตรงจุด  โรคก็จะไม่ลุกลาม หรือไม่เป็นหนักกว่าเดิม  การรักษาควบคู่กันทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน  จะช่วยให้เราหายจากโรคนี้ได้ดียิ่งขึ้น  เข้าใจถึงโรคและอาการต่าง ๆ ได้ละเอียดยิ่งขึ้น  

อ้างอิง

อาการปวดหลัง (samitivejhospitals.com)
6 อาการปวดหลัง แบบไหนเสี่ยงโรค - โรงพยาบาลเวชธานี (vejthani.com)

___________________________________________

บทความโดย
แพทย์จีน บดินทร์ ก่อกวิน (หมอจีน กวน จิน ซุ่น)
关金顺 中医师
TCM. Dr. Bordin Korkawin (Guan Jin Shun)
แผนกทุยหนาและกระดูก

คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาโคราช

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้