Last updated: 8 ก.ย. 2568 | 53 จำนวนผู้เข้าชม |
ในสังคมปัจจุบันอาการปวดเอวกลายเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญอยู่บ่อยๆ ปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดอาการปวดเอว เช่น การนั่งเป็นเวลานาน นั่งนานไม่เคลื่อนไหว การจัดท่าทางที่ไม่หมาะสมและการทำงานหนัก ล้วนส่งผลทําให้เกิดอาการปวดเอวได้ อาการปวดเอวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของผู้คน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะหาวิธีการรักษาที่ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะมาแนะนำการรักษาอาการปวดเอวเพื่อช่วยบรรเทาอาการของท่านและฟื้นฟูอาการให้ดียิ่งขึ้น
สาเหตุของอาการปวดเอว
อาการปวดเอวเป็นอาการที่พบบ่อย และมีหลายสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดเอวได้ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดเอว
การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น(Ligament): การใช้งานมากเกินไป การทำท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน การยกของหนักและการทำกิจกรรมอื่นๆ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น(Ligament)ทำให้เกิดอาการปวดเอว
ปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลัง: หมอนรองกระดูกอ่อนเป็นแผ่นรองกระดูกอ่อนที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังซึ่งปลิ้นยื่นหรือทับออกมาเกิดการกดทับรากประสาทหรือไขสันหลังทำให้เกิดอาการปวดเอว
ความเสื่อมของกระดูกสันหลัง: เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างกระดูกสันหลังจะค่อยๆเสื่อมลง เช่น หมอนรองกระดูกบางลง การเสื่อมของข้อต่อ เป็นต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ล้วนทำให้เกิดอาการปวดเอวได้
การแตกหักหรือการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังส่วนเอว: กระดูกหัก กระดูกร้าวหรือการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังอื่น ๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเอว เช่น การหกล้ม การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เป็นต้น กระดูกหักมักพบในคุณแม่วัยกลางคนหรือสูงอายุ เนื่องจากโรคกระดูกพรุน หลังจากได้รับบาดเจ็บจะเกิดภาวะกระดูกสันหลังยุบตัว
โรคหรือการอักเสบ: โรคหรือสภาวะการอักเสบบางอย่าง เช่น โรคกระดูกไขสันหลังส่วนเอวเสื่อม,โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด(Ankylosing Spondylitis), การติดเชื้อ, เนื้องอก เป็นต้น ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการปวดเอวได้
วิธีการรักษาอาการปวดเอว
1.การพักผ่อนและการประคบร้อน: ระหว่างการเกิดอาการปวดเอว การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญมาก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มากเกินไปและพยายามอยู่ในท่านอนราบ ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้ถุงประคบร้อน ประคบในบริเวณที่เจ็บปวดการประคบร้อนสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและลดการอักเสบ
2.กายภาพบำบัด: กายภาพบำบัดมีบทบาทสำคัญในการรักษาอาการปวดเอว อาการปวดหลังสามารถบรรเทาได้ด้วยการนวดทุยหนาและการดึงกระดูกสันหลัง กายภาพบำบัดช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเกร็ง เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย
3.การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาอาการปวดเอวได้ การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ (Lower Impact Cardio Exercise) เช่น การเดิน การว่ายน้ำและการปั่นจักรยาน สามารถเพิ่มความมั่นคงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อเอวได้ ขณะเดียวกันการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังสามารถช่วยพยุงกระดูกสันหลังและลดภาระการรับน้ำหนักของบริเวณเอวได้
4.การจัดท่าทางที่เหมาะสม: การจัดท่าทางที่เหมาะสมในระยะยาวสามารถป้องกันและบรรเทาอาการปวดเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนั่งให้คงส่วนโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังและหลีกเลี่ยงการนั่งหลังค่อม ในขณะเดียวกันพยายามรักษาความสมดุลและความมั่นคงของร่างกายในขณะยืนและเดิน หลีกเลี่ยงการบิดหรือยืดมากเกินไป
5.ปัญหาจากไต: นิ่วในไต การติดเชื้อที่กระดูกเชิงกรานหรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไต บางครั้งทำให้เกิดอาการปวดเอวได้
6.มีการกดทับเส้นประสาท: การกดทับเส้นประสาทบริเวณเอวหรือการได้รับความเสียหาย เช่น อาการปวดสะโพกร้าวลงขาซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดเอวและอาการที่เกี่ยวข้อง
สาเหตุเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการปวดเอว สาเหตุที่แท้จริงจะต้องมีการประเมินอย่างละเอียดและวินิจฉัยตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หากท่านมีอาการปวดเอว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและรักษาต่อไป
ตัวอย่างเคสผู้ป่วย ชื่อ: นายจาง เพศ ชาย อายุ 45 ปี
อาชีพ: พนักงานออฟฟิศ
อาการสำคัญ: นายจางรู้สึกปวดเอวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและความเจ็บปวดร้าวไปยังสะโพกและขาด้านขวา เขาอธิบายความเจ็บปวดว่าเป็นความรู้สึกแบบเจ็บแหลมและบางครั้งรู้สึกเจ็บแหลมแบบเข็มทิ่ม เมื่อทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นระดับความเจ็บปวดจะหนักขึ้นตาม
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต: ในอดีตคุณจางไม่เคยมีปัญหาปวดเอว เมื่อไม่นานมานี้ขณะขนของหนัก เขารู้สึกปวดตึงบริเวณเอวและมีอาการปวดกะทันหันอย่างรุนแรง หลังจากนั้นเริ่มมีอาการปวดเอวและปวดมีอาการปวดร้าว
การวินิจฉัย: จากอาการของผู้ป่วย การตรวจร่างกายเบื้องต้นและภาพถ่ายเอกซเรย์ นายจางได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาท
การรักษา: ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน ได้แก่ การนวดทุยหนา และการดึงกระดูกสันหลัง เพื่อช่วยลดอาการและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
การรักษาแพทย์แผนจีน
ในการรักษาอาการปวดเอว ด้วยการแพทย์แผนจีนมีข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการฝังเข็ม การครอบแก้วและยาสมุนไพรจีน เป็นต้น ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาอาการปวดเอว วิธีการเหล่านี้สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือด จึงบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของเอวได้
ป้องกันอาการปวดเอว
นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว การป้องกันอาการปวดเอวก็เป็นสิ่งสำคัญมาก การควบคุมน้ำหนักที่ดี หลีกเลี่ยงการนั่งเป็นระยะเวลานาน การเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เช่น การยกของหนักและการก้มตัว การบริหารเวลาในการทำงานและการพักผ่อนมีสัดส่วนสมเหตุสมผล สามารถลดความเสี่ยงของอาการปวดเอวได้
สรุปอาการปวดเอวเป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่สามารถรักษาได้ โดยวิธีการพักผ่อน กายภาพบำบัด การออกกำลังกายที่เหมาะสม การจัดท่าทางที่เหมาะสม การรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนหรือการรักษาด้วยยา เป็นต้น สามารถลดอาการปวดเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตามหากยังคงมีอาการปวดเอวหรือปวดรุนแรงขึ้น ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
_____________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีนอาวุโส หลี่ ฮั่น เฉิง
李汉成 中医师
TCM. Dr. Li Han Cheng
แปลบทความโดย
แพทย์จีน ธิดารัตน์ องค์ศรีตระกูล (เวิง ฮุ่ย เจิน)
翁慧珍 中医师
TCM. Dr. Thidarat Ongsritrakul (Weng Hui Zhen)