Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 80290 จำนวนผู้เข้าชม |
1. ก่อนอาบน้ำควรเตรียมพร้อมร่างกายประมาณ 5-10 นาที เพื่อปรับสภาพร่างกายให้อบอุ่น อุณหภูมิในร่างกายพอเหมาะในการอาบน้ำหรือแช่น้ำหากอาบน้ำในขณะที่ร่างกายเหนื่อยล้าจากการทำงานอย่างหนัก เมื่อร่างกายมากระทบกับอุณภูมิน้ำที่เย็นมา สัมผัสกับผิว จะทำให้ระบบภายในร่างกายเกิดอาการรวน เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายและภายนอกร่างกายเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ส่งผลทำให้เกิดเป็นหวัดได้ง่ายและบางคนเป็นหวัดทันที
2. ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าหู จะส่งผลทำให้หูอักเสบได้
3. ควรเริ่มต้นชะล้างร่างกายด้วยน้ำเปล่าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว การใช้น้ำเปล่าล้างผิว เป็นการเริ่มต้นเพื่อชำระล้างฝุ่นละออง หรือคราบเหงื่อ สิ่งสกปรกที่เคลือบผิวออกจากตัวก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟอกตามตัว ส่วนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีน้อย หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติ จะช่วยป้องกันผิวที่อาจระคายเคืองได้ง่าย
4. ในขณะอาบน้ำควรทำความสะอาดเริ่มต้นตั้งแต่คอ ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงส่วนล่าง รวมไปถึงจุดข้อพับส่วนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนที่สะสมคราบไคลและแบคทีเรียเวลาที่เหงื่อออก การใช้สครับขัดผิวควบคู่ไปด้วยจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่แห้ง ออกจากร่างกาย ช่วยชะล้างสิ่งสกปรก และทำให้ผิวนุ่มเนียนมากขึ้น
5. ช่วงเวลาในการอาบน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรอาบน้ำช่วงเวลาดึก เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศจะเริ่มเย็น อาจจะทำให้เป็นหวัดและไม่สบายได้ง่าย รวมไปถึงวันที่มีแดดจัด อากาศร้อนจัดอีกเช่นกัน หากคุณอาบน้ำในวันที่อากาศร้อนจัด อาจทำให้หลอดเลือดขยายตัวอย่างฉับพลัน ส่งผลทำให้หัวใจและสมองขาดเลือดอย่างกระทันหัน จนเกิดอาการวิงเวียนและแน่นหน้าอก และอาจเกิดอันตรายในกรณีที่เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ , ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
6. อุณภูมิของน้ำที่อาบแบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ น้ำที่อาบไม่ควรร้อนหรือเย็นจัดเกินไป หากเป็นน้ำอุ่นจะดี และที่สำคัญไม่ควรอาบน้ำเกิน 15-20 นาที
7. การล้างหน้า ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป พยายามไม่ขัดถูใบหน้าด้วยมือรุนแรง ใช้เพียงปลายนิ้วกดนวดใบหน้าเบาๆ จะช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขมขนบนใบหน้า ช่วยผ่อนคลายและเป็นการกระตุ้นเลือดบนใบหน้าให้ไหลเวียนดีขึ้น
ข้อควรระวังและปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
1.หลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรโดนลมหรือเข้านอนทันที ในขณะที่ศีรษะยังเปียกชื้นอยู่ เพราะความชื้นที่สะสมเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดอาการป่วยต่างๆ เช่น ภูมิแพ้อากาศ หวัดเรื้อรัง ปวดศีรษะ ผมร่วง เป็นต้น
2. ไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จและอิ่มใหม่ๆ สาเหตุอันเนื่องมาจากเส้นเลือดฝอยที่อยู่ตามผิวหนังเมื่อถูกน้ำอุ่นจะเกิดการขยายตัว และเลือดจะกระจายตัวไปสู่ผิวหนังเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการย่อยและระบบการดูดซึม
3.หลังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะร่างกายจะเกิดการสูญเสียกลูโคสมากขึ้นทำให้เกิดอาการวิงเวียน ตาพร่า อ่อนเพลีย หรือหมดแรง ซึ่งในบางรายหากน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป อาจจะร้ายแรงถึงขั้นทำให้หมดสติ
4.ไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายเสร็จ ควรพักสักครู่ ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับอุณภูมิ หากอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายเช่น ทำให้เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอ ในบางรายอาจทำให้วูบ เป็นลม หมดสติได้
5. ไม่ควรอาบน้ำร้อน หรืออุ่นจัด เพราะน้ำที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ จะทำให้ผิวชั้นนอกเกิดสภาวะเครียด และน้ำร้อนก็ยังไปทำลายเซลล์ผิวหนังได้
6. การสระผม ควรเริ่มต้นทำให้ผมเปียกชุ่มก่อน โดยใช้น้ำอุ่น แต่ไม่ควรให้น้ำร้อนจนเกินไป จะทำให้เกิดผมร่วงได้ หลังจากนั้นใช้แชมพูทำความสะอาดตาม ด้วยครีมนวด นวดศีรษะเบาๆ นวดประมาณ 3-4 นาที ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังที่หนังศีรษะและรากผมมากขึ้น ลดการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยลง และช่วยลดอาการความเครียด
7. การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปจะทำให้ผิวแห้ง ส่งผลให้เกิดปัญหาที่ตามมาคือ ผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดความหยืดหยุ่น ผิวอาจแห้ง แตกเป็นขุย เกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น สำหรับประเทศในเขตร้อนชื้นแบบประเทศไทย ความถี่ในการอาบน้ำ เพียงวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอและเหมาะสมแล้ว
สอบถามข้อมูลการรักษาเพิ่มเติม
LINE@ : @huachiewtcm