คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แถลงผลงานช่วยเหลือสังคม ปี 67 พร้อมเดินหน้าดูแลประชาชนชาวไทยด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน

คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว องค์กรในเครือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แถลงผลการดำเนินงานช่วยเหลือสังคมของคลินิกฯ ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ณ อาคารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย

ในปี พ.ศ. 2567 ภายใต้ปณิธาน "ที่พึ่งที่ต้องนึกถึงยามเจ็บป่วย ด้วยศาสตร์พันปี ผสานเทคโนโลยีทันสมัย" คลินิกฯ ได้มุ่งมั่นรักษา ป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูร่างกายของประชาชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนจำนวนรวมกว่า 325,720 ราย พร้อมทั้งขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่ประชาชนชาวไทย

สานภารกิจเพื่อสังคม ผ่านศาสตร์แพทย์แผนจีน ตลอดปีที่ผ่านมา คลินิกฯ ได้ดำเนินโครงการช่วยเหลือสังคม อาทิ

โครงการ “สงเคราะห์ผู้นำครอบครัวที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง” ซึ่งเน้นการดูแลแบบองค์รวม โดยใช้ศาสตร์ฝังเข็ม รมยา การใช้ยาสมุนไพรจีน และการฝึกเต๋าอิ่น เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ครอบครัว
โครงการ “แพทย์จีนสัญจร” ออกหน่วยตรวจรักษาเชิงรุกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สถานพยาบาลในเครือ และหน่วยงานราชการ
โครงการ “เสวนาภาษาหมอจีน” เผยแพร่ความรู้ด้านศาสตร์การแพทย์แผนจีน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพประชาชน
ร่วมแจกชาสมุนไพรจีน น้ำดื่ม ข้าวสาร และอาหารแห้งแก่ประชาชนในงานสาธารณกุศลต่าง ๆ
นอกจากนี้ คลินิกฯ ยังได้นำเข้ายาสมุนไพรจีนคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐาน เพื่อควบคุมต้นทุนและคุณภาพสมุนไพรอย่างเข้มงวด ช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาลของประชาชนได้กว่า 50 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

ก้าวสู่ผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์แผนจีน ในฐานะศูนย์กลางการแพทย์แผนจีนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทย คลินิกฯ ได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยมาใช้ในการรักษาและบริการ อาทิ
กระจก AI ตรวจโรคอัจฉริยะ ซึ่งสามารถวิเคราะห์สุขภาพจากใบหน้าและลิ้นได้ภายใน 6 วินาที
หุ่นยนต์ AI เสี่ยวคัง เพื่อประเมินและติดตามสุขภาพรายบุคคล พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเซี่ยงไฮ้
และคลินิกฯ ยังได้จัด “มหกรรมการแพทย์แผนจีน” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และสถาบันการแพทย์แผนจีนชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรมแก่ประชาชนทั่วไป โดยเปิดให้เข้ารับบริการตรวจรักษาและคำปรึกษาฟรีจากแพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญ

ปี พ.ศ. 2568 คลินิกฯ จะเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการแพทย์แผนจีนของไทยในระดับภูมิภาค ด้วยแผนพัฒนาสำคัญ ได้แก่
ขยายบริการ Telemedicine เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ
พัฒนาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากร
ผลักดันให้คลินิกฯ เป็นศูนย์กลางสมุนไพรจีนที่ทันสมัยและได้มาตรฐานในระดับภูมิภาค
สร้างนวัตกรรมการดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนไทยในปัจจุบัน
นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกฯ กล่าวปิดท้ายว่า “เราจะยังคงยึดมั่นในพันธกิจการให้บริการทางการแพทย์ที่เข้าถึงได้ มีคุณภาพ และไม่หยุดพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์สุขภาพของประชาชนชาวไทย”