ต่อมลูกหมากโต...ปัญหาน่ากังวลใจ

Last updated: 3 ก.ย. 2568  |  127 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ต่อมลูกหมากโต...ปัญหาน่ากังวลใจ

1. อาการของต่อมลูกหมากโตคืออะไร?

  ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชาย ที่เชื่อมต่อกระเพาะปัสสาวะและห่อหุ้มท่อปัสสาวะไว้ นอกจากจะเป็นทางเดินที่สำคัญของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างแล้ว และยังมีหน้าที่สำคัญในระบบสืบพันธุ์อีกด้วย คือ ผลิตของเหลวเป็นตัวหล่อลื่นและนำส่งเชื้ออสุจิในขณะที่มีการหลั่งของน้ำอสุจิออกมา ต่อมลูกหมากจะค่อยๆ โตขึ้นตามอายุ ซึ่งเรียกว่าภาวะต่อมลูกหมากโตชนิดไม่ร้ายแรง หรือที่เรียกว่า "ต่อมลูกหมากโต" เมื่อต่อมลูกหมากโตขึ้นจะทำให้ปริมาตรเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจไปอุดตันทางออกของกระเพาะปัสสาวะและส่งผลกระทบต่อการขับปัสสาวะได้ ผู้ป่วยจะต้องใช้เวลานานในการปัสสาวะ ปัสสาวะจะมีลำเล็กลง ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะขาดเป็นช่วงๆ และมีปัสสาวะหยดตอนท้าย ต้องเบ่งหน้าท้องจึงจะสามารถปัสสาวะได้หมด

  หากปล่อยไว้นานไม่รีบดูแลรักษา อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและเกิดภาวะปัสสาวะคั่งเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะตอนกลางคืน และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งการที่ปัสสาวะคั่งเป็นเวลานานจะส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและส่งผลเสียต่อไตโดยตรง ทำให้ไตทำงานหนัก ความดันไตสูง ไตบวมน้ำ จนอาจเกิดภาวะไตวาย และเกิดภาวะของเสียคั่งในเลือด หรือภาวะยูรีเมียตามมาได้

2. ทำไมผู้ชายอายุมากขึ้นจึงมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก?

  ต่อมลูกหมากจะโตขึ้นตามอายุ โดยมีอัตราการเกิดประมาณ 50-60% ในผู้ชายอายุ 60 ปี และเพิ่มขึ้นเป็น 80-90% ในผู้ชายที่มีอายุเกิน 70 ปี สาเหตุของต่อมลูกหมากโตเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนของเซลล์ต่อม (glandular hyperplasia) และเซลล์สโตรม่า (stromal hyperplasia) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนเพศชาย เช่น เทสโทสเตอโรน และไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT)

  นอกจากนี้โรคอื่นๆ ยา และพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพก็อาจทำให้ต่อมลูกหมากมีปัญหามากขึ้นได้เช่นกัน งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่มีกลุ่มอาการเมตาบอลิซึมและผู้ที่มีภาวะอ้วนมีปริมาตรต่อมลูกหมากที่ใหญ่กว่า โดยเฉพาะผู้ชายที่เป็นโรคเบาหวานจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะต่อมลูกหมากโตร่วมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดฝอยแข็งตัว ส่งผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อและทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย การใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ยาต้านซึมเศร้า ยาระงับประสาท หรือพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การกลั้นปัสสาวะนานเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดสะสม มีแนวโน้มที่จะทำให้ต่อมลูกหมากโตได้ เกิดภาวะปัสสาวะคั่ง ซึ่งจะทำให้อาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะคุมไม่อยู่ และปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน เป็นต้น

3. การแพทย์แผนจีนจะรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตอย่างไร?

  ภาวะต่อมลูกหมากโต ในทางการแพทย์แผนจีนจัดอยู่ในขอบเขตของโรค “จิงหลง” (精癃)  หมายถึง อาการปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน และปัสสาวะลำบาก หรือโรค "หลงปี้" (癃闭) ซึ่งหมายถึงอาการปัสสาวะลำบากเป็นอาการหลัก ในผู้ป่วยที่มีอาการเฉียบพลัน ปัสสาวะขาดเป็นช่วงๆ ปัสสาวะเป็นหยดๆ ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง การปัสสาวะจะลำบากขึ้น ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยขึ้น และปัสสาวะไม่พุ่ง

  ในทางการแพทย์แผนจีนมองว่าตำแหน่งของโรคอยู่ที่กระเพาะปัสสาวะ แต่รากฐานของโรคอยู่ที่ไต  ซึ่งไตเป็นรากฐานของ "ทุนแต่กำเนิด" (先天之本) ทำหน้าที่กักเก็บ "สารจิง" (精) และควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ นอกจากนี้ยังควบคุมการสืบพันธุ์ เมื่ออายุมากขึ้น สารจิงและชี่ไตจะค่อยๆ เสื่อมถอยไป ทำให้อินและหยางของไตไม่เพียงพอ การแปรเปลี่ยนของชี่และการขับเคลื่อนของชี่ทำงานถดถอย เมื่อไม่สามารถขับเคลื่อนได้ การขับปัสสาวะจึงไม่มีแรง เมื่อเป็นนานวันเข้า การบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะเลือดคั่ง การดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการปัสสาวะไม่หมดคั่งค้างภายในสะสมจะทำให้เกิดเสมหะและความชื้น
แนวทางการรักษาจึงเน้นที่การบำรุงไต ร่วมกับการระบายความร้อนและขจัดพิษ และการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและสลายเลือดคั่ง นอกจากนี้ ไตยังควบคุมการสืบพันธุ์ด้วย หากชี่และสารจิงของไตไม่เพียงพอ ก็จะทำให้มีอาการหนาวง่าย ปวดเมื่อยเอวและเข่า และอาจนำไปสู่ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือไม่แข็งตัวเต็มที่ได้

  การรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตด้วยการแพทย์แผนจีนโดยใช้สมุนไพรจีนมีประโยชน์ต่อการทำงานของไตและกระเพาะปัสสาวะ ช่วยบำรุงไตและรักษาสารจิง เสริมบำรุงหยาง เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ และช่วยให้กระเพาะปัสสาวะมีกำลังดีขึ้น ส่งผลให้ต่อมลูกหมากสามารถหดตัวลง และทำให้การปัสสาวะได้คล่องขึ้น ในการบำรุงและดูแลรักษา สามารถปรึกษาแพทย์แผนจีนที่มีประสบการณ์เพื่อตรวจชีพจรและวินิจฉัยวางแผนการรักษาตามสภาพร่างกายเฉพาะบุคคล ซึ่งตำรับยาจีนที่ใช้บ่อย เช่น ตำรับยาเซิ่นชี่หวาน(肾气丸) เพิ่มตัวยา อิ๋นหยางฮั่ว (淫羊藿) ทู่ซือจื่อ (菟丝子) ลู่หรง (鹿茸) ปาจี๋เทียน (巴戟天) ฝูหลิง (茯苓) เจ๋อเซี่ย (泽泻) และเชอเฉียนจื่อ (车前子) เป็นต้น

  นอกจากนี้สามารถรักษาด้วยการฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลอวัยวะได้เช่นเดียวกัน การใช้ยาและฝังเข็มที่ตรงจุดไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาอาการของต่อมลูกหมากโตและอาการปัสสาวะ แต่ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานทางเพศของผู้ชายได้อีกด้วย

4. ควรดูแลตัวเองอย่างไรในชีวิตประจำวัน?

  เพื่อป้องกันภาวะต่อมลูกหมากโต คุณสามารถสร้างนิสัยที่ดี 3 ประการดังต่อไปนี้:

รับประทานอาหารที่สมดุล หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต  ควรรับประทานผัก ผลไม้ โปรตีน และอาหารไขมันต่ำในปริมาณที่เพียงพอ และลดอาหารปิ้งย่าง ทอด และรสจัด จะช่วยรักษาสมดุลของอาหารและลดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟหรือชา ตามหลักการแพทย์แผนจีน อาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น หัวไชเท้า บวบ ฟัก และกะหล่ำปลี หรือหากรับประทานควรปรุงร่วมกับขิงหั่นฝอยเล็กน้อย
ออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ การออกกำลังกายไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการของต่อมลูกหมากโตได้อีกด้วย การนั่งเป็นเวลานานจะทำให้ต่อมลูกหมากมีความดันมากเกินไป และทำให้อาการแย่ลง ควรหมั่นปรับเปลี่ยนอิริยาบทระหว่างวันอยู่เสมอ
ขับถ่ายปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ อย่ากลั้นปัสสาวะ สามารถฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้โดยการขมิบกล้ามเนื้อรอบทวารหนักและท่อปัสสาวะ ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วคลายออก 10 วินาที ทำซ้ำ 15 ครั้งถือเป็นหนึ่งรอบ ทำสองรอบก่อนนอน
การกดจุดดูแลสุขภาพบำรุงไต: ก่อนนอน แนะนำให้กดจุดไท่ซี (太溪KI 3) และ จุดซานอินเจียว (三阴交SP 6) ทั้งสองข้าง กดนวดด้วยความเร็ว 30 ครั้งต่อนาที เป็นเวลา 1-2 นาที

จุดไท่ซี(太溪KI 3): อยู่ตรงกลางระหว่างตาตุ่มด้านในกับเอ็นร้อยหวาย


จุดซานอินเจียว(三阴交SP 6): อยู่เหนือตาตุ่มด้านในขึ้นไป 3 ชุ่น หรือใช้นิ้วมือสี่นิ้วเรียงชิดติดกัน

______________________________________________________________________

บทความโดย

แพทย์จีน หลิน ยู่ว เซิง 
林育昇  中医师
TCM. Dr. Peter Lin

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้