สอนวิธีการบรรเทาอาการปวดคอบ่าไหล่ เพื่อผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน

ยุคสมัยของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเรา จึงทำให้อาการปวดคอบ่าไหล่ได้กลายเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย หลายท่านอาจประสบกับความรู้สึกไม่สบายนี้ในชีวิตประจำวันหรือในการใช้ชีวิต ถึงแม้ว่าอาการปวดคอบ่าไหล่อาจดูเหมือนเรื่องธรรมดา แต่มีผลกระทบที่ไม่อาจละเลย ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละท่านได้

อาการปวดคอบ่าไหล่คืออะไร

ภาวะที่มีอาการปวด ไม่สบาย หรือตึงเกร็ง บริเวณคอบ่าไหล่ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่มักพบบ่อยๆ มักเกิดจากปัญหาโครงสร้างร่างกายต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น(Ligament)  เส้นประสาท หรือข้อต่อ เป็นต้น

อาการปวดคอบ่าไหล่ สามารถแสดงอาการไม่สบายตัว หรือ ปวดต่างๆได้ เช่น อาการปวดแข็ง, ปวดตึง, ปวดร้าว, ปวดศีรษะ เป็นต้น อาการปวดเหล่านี้มักจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจําวันและการทํางาน แม้กระทั่งส่งผลทําให้คุณภาพการนอนหลับแย่ลง

สำหรับอาการปวดคอบ่าไหล่ เล็กน้อย การพักผ่อนให้เพียงพอ การประคบร้อน การนวดและการออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสม จะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตามหากอาการปวดยังคงรุนแรงหรือมาพร้อมกับอาการรุนแรงอื่น ๆ ขอแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดอาการปวดคอบ่าไหล่ การจัดท่าทางที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน การออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งลดความเครียดทางด้านจิตใจทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

สาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่

 อาการปวดคอบ่าไหล่มีสาเหตุที่แตกต่างกันและสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่:

1.การจัดท่าทางที่ไม่เหมาะสม: การจัดท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น การก้มดูโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เงยหน้าดูหน้าจอ หรือก้มหน้าทำงานเป็นเวลานาน จะส่งผลให้กล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงเกร็งมากเกินไป และเพิ่มความเสี่ยงของอาการปวดคอบ่าไหล่

2.การบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน: การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น(Ligament)  เส้นเอ็น(Tendon) เป็นต้น ในบริเวณคอบ่าไหล่ ซึ่งอาจเกิดจากการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อุบัติเหตุเนื่องจากการจราจร การหกล้ม เป็นต้น

3.ปัญหากระดูกสันหลังส่วนคอและข้อต่อ: ความเสื่อมของกระดูกสันหลังส่วนคอ, หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ, โรคข้ออักเสบของกระดูกสันหลังส่วนคอ อาจทำให้เกิดอาการปวดคอได้ ปัญหาข้อไหล่หรือข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนคอ เช่น ข้ออักเสบ ข้อเคลื่อน เป็นต้น อาจทำให้เกิดอาการปวดคอบ่าไหล่ได้เช่นกัน

วิธีการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่

ประคบร้อนและเย็น: ในระยะแรกใช้การประคบร้อน (ถุงน้ำร้อนหรือผ้าขนหนูเปียกร้อน) เพื่อบรรเทาความตึงตัวของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เมื่อเกิดอาการปวดหรือการปวดเฉียบพลันการประคบเย็น (ถุงน้ำแข็งหรือผ้าขนหนูเปียกเย็น) สามารถลดการอักเสบและชาจากเส้นประสาทได้

นวดทุยหนา: นวดทุยหนาสามารถบรรเทาอาการปวดคอบ่าไหล่ได้ดี และการครอบแก้วในการแพทย์แผนจีนยังเหมาะสำหรับการบรรเทาอาการปวดคอบ่าไหล่ได้

กายภาพบำบัดและการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ:โดยเฉพาะกายภาพบำบัดและการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ ช่วยสามารถปรับปรุงการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่ เสริมสร้างความมั่นคงของกล้ามเนื้อและปรับปรุงโครงสร้างท่าทางให้ดียิ่งขึ้น

เคสผู้ป่วย

ข้อมูลผู้ป่วย:

ชื่อ: นายหวัง

เพศ: ชาย

อายุ: 42 ปี

อาชีพ: พนักงานออฟฟิศ

อาการสำคัญ: ปวดคอบ่าไหล่และมีความรู้สึกคอตึงแข็ง

ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน: ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกไม่สบายที่คอบ่าไหล่อย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทํางานในที่ทำงานเป็นเวลานาน หรือใช้คอมพิวเตอร์ อาการจะชัดเจนยิ่งขึ้น เขาอธิบายว่าความเจ็บปวดรู้สึกเหมือนปวดทื่อ บางครั้งมาพร้อมกับความรู้สึกปวดเมื่อย และมักมีอาการคอตึงแข็ง การเคลื่อนไหวจํากัด อาการเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตประจำวันและประสิทธิภาพการทำงานของเขา ยังสังเกตเห็นคุณภาพการนอนหลับที่แย่ลง เพราะมักจะถูกรบกวนด้วยอาการปวดบริเวณต้นคอในเวลากลางคืน

ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต: คุณหวังไม่มีประวัติโรคร้ายแรงในอดีต แต่เขายอมรับว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยออกกําลังกาย และมักจะก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน นอกจากนี้เขายังรู้สึกกดดันมากในการทำงานและการใช้ชีวิต ซึ่งบางครั้งรู้สึกวิตกกังวลและเหนื่อยล้า

การวินิจฉัย: จากอาการบอกเล่าของผู้ป่วย วินิจฉัยได้ว่ามีอาการปวดคอบ่าไหล่อาจเกิดจากการทำท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน จึงเกิดความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ การทำงานในที่ทำงาน ความเครียดทางจิตใจและความวิตกกังวลอาจทําให้อาการรุนแรงขึ้น

แผนการรักษา: รักษาด้วยการนวดทุยหนาแพทย์แผนจีนและการครอบแก้ว นายหวังได้ให้ความร่วมมืออย่างดีในการรักษาภายใต้การแนะนำของแพทย์แผนจีนอาวุโส หลินเผยชวน หลังจากรับการรักษาเป็นประจำ อาการปวดคอบ่าไหล่ค่อยๆบรรเทาลงและคุณภาพการนอนหลับดีขึ้น

_____________________________________________
บทความโดย
ดร. พจ.อาวุโส ชวน ไพบูลย์เวช (หลิน เผย ชวน)
林培川 资深中医师
TCM.Dr.Chuan Phaiboonvej (Lin Pei Chuan)

แปลบทความโดย
แพทย์จีน ธิดารัตน์ องค์ศรีตระกูล (เวิง ฮุ่ย เจิน)
翁慧珍 中医师
TCM. Dr. Thidarat Ongsritrakul (Weng Hui Zhen)