Last updated: 2 ต.ค. 2568 | 59 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนมีอาการปวดข้อเป็นๆหายๆแล้วก็แอบกังวลว่า “ หรือเราจะเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ? ”วันนี้หมอขอชวนมาสำรวจอาการเบื้องต้นกันค่ะ ว่าจะเข้าเกณฑ์เป็นรูมาตอยด์ไหม
1. ตำแหน่งการปวด โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์มักปวดบริเวณข้อต่อเล็กๆของร่างกาย เช่น ข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อเท้า ในลักษณะสมมาตร แต่ในบางรายอาจพบอาการตามข้อต่อใหญ่ๆ เช่น ข้อเข่าได้เช่นกัน
2. ลักษณะการปวด นอกจากความปวดแล้ว ข้อต่ออาจมีอาการบวม ร้อนหรือข้อแข็ง รู้สึกตึงๆ ทำให้ขยับไม่ได้สะดวก และมักเกิดพร้อมกันหลายข้อ
3. ช่วงเวลาที่อาการปวดชัดเจน ข้ออักเสบรูมาตอยด์ส่วนมากตื่นเช้ามามักจะมีอาการปวดตามข้อมาก ข้อแข็ง และขยับเคลื่อนไหวลำบาก หากเคลื่อนไหวสักพักอาการปวดหรือขยับข้อลำบากจะทุเลาลง แต่ถ้าเจออากาศเย็นจะทำให้อาการปวดเป็นมากขึ้น
4. สิ่งที่ทำให้ปวดมากขึ้น หากทำงานหนัก เช่น มีการใช้ข้อต่อเป็นระยะเวลานานๆ เช่นถือของหนัก พิมพ์เอกสาร หรือพักผ่อนน้อยจะทำให้อาการปวดข้อต่อเป็นมากขึ้น
ในศาสตร์การแพทย์แผนจีน อาการปวดข้อที่เกิดขึ้นเรื้อรังมักสัมพันธ์กับ การติดขัดของการไหลเวียนชี่และเลือด หากเลือดและชี่ไม่ไหลเวียนได้อย่างราบรื่น จะเกิดอาการปวด ตึง และเคลื่อนไหวลำบาก ปัจจัยที่ทำให้อาการปวดข้อรุนแรงขึ้นตามทฤษฎีแพทย์จีน ได้แก่
1. ความเย็นและความชื้น จัดเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ทำให้เส้นลมปราณติดขัด เลือดหมุนเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้ปวดข้อมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่อากาศเย็นหรือฝนตก ความชื้นสูง
2. การไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานาน เช่น นั่งนาน ๆ หรือพักผ่อนมากเกินไป ทำให้เลือดและชี่ไหลเวียนช้าลง ส่งผลให้ข้อแข็งและปวดมากขึ้น
3. การตรากตรำ (เหลาเล่ย 劳累) ใช้งานร่างกายหรือจิตใจมากเกินไป เช่น ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หรือเครียดสะสมเป็นระยะเวลานาน ทำให้ชี่พร่อง กระตุ้นให้ปวดข้อได้ง่าย
ถ้าคุณสังเกตแล้วว่ามีอาการคล้าย ๆ กันนี้ หรือยังไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วใช่โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือไม่ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและหาทางดูแลอย่างเหมาะสม
_________________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีน ธันย์ชนก เอื้อธรรมมิตร (หมอจีน หยาง กุ้ย เหรียน)
杨桂莲 中医师
TCM. Dr. Tanchanok Euathummit (Yang Gui Lian)