Last updated: 13 ส.ค. 2568 | 25 จำนวนผู้เข้าชม |
ชะลอวัย...กับศาสตร์ฝังเข็ม
ความเสื่อมโทรมของร่างกาย เป็นสภาวะที่ร่างกายเสื่อมถอยตามกาลเวลา เป็นสิ่งที่ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ และมนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในมุมมองการแพทย์แผนจีนมีความเห็นว่าการเกิด การเจริญเติบโต และความชราของมนุษย์ เกี่ยวข้องกับการทำงานของอวัยวะ เส้นลมปราณ เลือดและชี่เป็นอย่างมาก ดังนั้นการดูแลร่างกายและปรับวิธีดำเนินชีวิตให้ถูกต้องสามารถช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกายได้
สาเหตุและกลไกโรค
การแพทย์แผนจีนมองว่าอารมณ์ที่ผิดปกติ การรับประทานอาหารไม่เหมาะสม ทำงานหนัก หรือการมีเพศสัมพันธ์มากไป ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม กลไกโรคเกิดจากชี่ของไตพร่อง สารจิงของไตไม่ถูกเหนี่ยวรั้ง ซึ่งสารจิงเป็นสารจำเป็นพื้นฐานของร่างกาย ถูกกักเก็บโดยอวัยวะไต มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของร่างกายรวมไปถึงสมรรถภาพในการเจริญพันธุ์ ดังนั้นสารจิงจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้ตัดสินความแข็งแรงหรือความเสื่อมโทรมของร่างกายได้ นอกจากนี้ความเสื่อมโทรมของร่างกายยังเกิดจากการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหารที่ลดลงอีกด้วย หากชี่และสารจิงของไตพร่อง ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ จะทำให้ความสามารถในการทำงานของอวัยวะภายในรวมถึงเส้นลมปราณลดลง เลือดและชี่ไม่เพียงพอ เกิดเป็นสภาวะอิน-หยางไม่สมดุลกัน ร่างกายจึงเกิดความเสื่อมโทรมในที่สุด
อาการแสดง
ความคิดความอ่านถดถอย อารมณ์เฉยเมย การตอบสนองเชื่องช้า ความสามารถในการจดจำลดลง การควบคุมและประสานงานของกล้ามเนื้อลำบากขึ้น เคลื่อนไหวช้าลง อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง ขี้หนาว มือเท้าเย็น วิงเวียนศีรษะ นอนไม่หลับ ล้วนเป็นอาการแสดงออกเกี่ยวกับความเสื่อมของร่างกายทั้งสิ้น
หากพบอาการหูมีเสียง เมื่อยเอวเข่าอ่อน ขี้หลงลืม ผมร่วงฟันโยก ลิ้นอ่อนฝ้าขาวบาง ชีพจรเล็กและชีพจรตำแหน่งฉื่อ(เป็นตำแหน่งที่สะท้อนการทำงานของไต)อ่อน(脉细尺弱)จัดอยู่ในกลุ่มอาการสารจิงของไตไม่เพียงพอ(肾精不足证); ร่างกายผอม แน่นท้อง เบื่ออาหาร ลิ้นอ่อนฝ้าขาว ชีพจรเล็กและอ่อน(脉细弱)จะจัดอยู่ในกลุ่มอาการม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง(脾胃虚弱证); และหากพบอาการแน่นหน้าอกใจสั่น ไอและหอบ อาการหนักขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว พูดเบา ลิ้นอ่อนฝ้าขาวหรือขอบปากคล้ำซีด ชีพจรจมและอ่อนหรือเต้นช้าร่วมด้วย(脉沉弱或结代)จะจัดอยู่ในกลุ่มอาการชี่หัวใจและปอดพร่อง(心肺气虚证)
ศาสตร์การฝังเข็มชะลอวัย
การฝังเข็มชะลอวัยเน้นเสริมชี่และเลือด บำรุงอวัยวะภายใน เป็นหลักสำคัญ เป็นการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนชี่และเลือดตามเส้นลมปราณ เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย เพิ่มความสามารถในการสร้างขึ้นใหม่และขับของเสียจากร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและมีอายุยืนยาว จุดเด่นของการฝังเข็มชะลอวัยคือ เลือกใช้จุดที่มีคุณสมบัติบำรุงร่างกาย และกระตุ้นเข็มด้วยแรงที่เหมาะสม โดยมีหลักการรักษาคือ
ทะลวงเส้นลมปราณ
การฝังเข็มเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือดในร่างกายให้ไหลเวียนคล่อง ดังที่คัมภีร์《หลิงซู•จิ่วเจินสือเอ้อหยวน》กล่าวไว้ว่า“การใช้เข็ม ทำให้เส้นลมปราณไม่ติดขัด ชี่และเลือดไหลเวียน” ดังนั้นหลักสำคัญแรกของการฝังเข็มคือ “การทำให้ไหลเวียนได้ดี” เมื่อเส้นลมปราณไม่มีอะไรอุดกั้น ทุกส่วนของร่างกายก็จะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ร่างกายก็จะแข็งแรงไม่เสื่อมโทรม
ปรับภาวะพร่อง-แกร่ง
ภาวะพร่อง-แกร่งสามารถสะท้อนสภาพของร่างกายได้ การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายอยู่ภายใต้หลักความสมดุล หากแต่ในบางครั้งอาจมีปัจจัยต่างๆเช่น พื้นฐานร่างกาย การแทรกแซงของปัจจัยก่อโรค ภูมิต้านทานอ่อนแอลง หรือความสามารถในการปรับตัวมาทำให้ภายในร่างกายเสียสมดุล ซึ่งการฝังเข็มสามารถช่วยปรับความไม่สมดุลเหล่านี้ได้ โดยใช้หลักการบำรุงเมื่อร่างกายมีอาการพร่อง และระบายเมื่อร่างกายมีอาการแกร่ง หรือใช้ทั้งการบำรุงและระบายพร้อมกันเมื่อร่างกายมีสภาวะของโรคที่ซับซ้อน เมื่อร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลก็จะสามารถชะลอวัยได้
ปรับประสานอิน-หยาง
อิน-หยางถือเป็นพื้นฐานของร่างกาย ความสมดุลและการทำงานประสานกันของอิน-หยางจึงถือเป็นเงื่อนไขหลักและมีความสำคัญอย่างมากในการชะลอวัย การฝังเข็มสามารถช่วยปรับทะลวงเส้นลมปราณ ปรับความพร่อง-แกร่งของร่างกาย ทำให้อวัยวะภายในทำงานเชื่อมโยงกัน และทำให้อิน-หยางในร่างกายสมดุลกันนั่นเอง
จุดฝังเข็มที่นิยมเลือก เช่น
จุดไป่หุ้ย (百会, GV20)
เป็นจุดที่เส้นลมปราณหยางของมือและเท้า เส้นลมปราณเท้าเจวี๋ยอินตับและเส้นลมปราณตูมาบรรจบกัน จึงมีชื่อเรียกว่า “ไป่หุ้ย” โดยคำว่า “ไป่” แปลว่า หลักร้อย, “หุ้ย” แปลว่า บรรจบ จุดนี้อยู่บริเวณกึ่งกลางศีรษะ เหนือชายผมด้านหน้าขึ้นไป 5 ชุ่น เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดที่สังกัดเส้นลมปราณตู มีวิถีการไหลเวียนเข้าสู่สมอง สมองถือเป็นทะเลแห่งไขกระดูก และยังถือเป็นที่พำนักของหยวนเสิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและกำกับความคิด สติสัมปชัญญะและจิตใจ ดังนั้นจุดนี้จึงถือเป็นจุดหลักที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับสมองหรือจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดเวียนศีรษะ ขี้หลงลืม สมองเสื่อมหรือโรคทางหลอดเลือดสมองได้ อีกทั้งเส้นลมปราณตูจัดเป็นทะเลแห่งเส้นลมปราณหยาง สามารถดึงหยางให้ลอยขึ้น บำรุงชี่ไม่ให้หลุดออกได้ มักใช้คู่กับจุดกวานหยวนเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับอวัยวะภายในหย่อนหรืออาการที่มีลักษณะจมลงเช่น มดลูกหย่อน ไส้ตรงหย่อน ปัสสาวะเล็ด ท้องเสียเรื้อรัง น้ำกามเคลื่อน เป็นต้น
จุดจู๋ซานหลี่ (足三里, ST36)
จุดจู๋ซานหลี่ อยู่ใต้กระดูกหัวเข่า 3ชุ่น ห่างจากกระดูกหน้าแข้ง 1 นิ้วมือ สังกัดอยู่เส้นลมปราณเท้าหยางหมิงกระเพาะอาหาร หน้าที่ของกระเพาะอาหารคือรองรับอาหารและน้ำ เสมือนเป็นทะเลแห่งสารอาหารในทางแพทย์แผนจีน นอกจากนี้กระเพาะอาหารยังเป็นแหล่งย่อยอาหารระดับต้น ทำหน้าที่ร่วมกับม้าม จุดนี้จึงมีสรรพคุณช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร บำรุงจงเจียว เสริมชี่ เป็นจุดสำคัญในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารเช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก บิด ท้องเดิน เป็นต้น
อีกทั้งจากการศึกษาวิจัยยังพบว่าจุดจู๋ซานหลี่ สามารถเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายได้ จึงถือเป็นจุดหลักในการปรับสมดุลร่างกายและบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและชะลอวัย สามารถรักษาโรคเรื้อรังต่างๆที่เกิดจาก ชี่พร่อง ร่างกายอ่อนแอไม่แข็งแรง เหนื่อยล้าง่าย หากใช้คู่กับจุดซานอินเจียวสามารถบำรุงได้ทั้งชี่และเลือด จึงเป็นจุดที่ใช้บ่อยมากจุดหนึ่งในทางคลินิก
จุดซานอินเจียว (三阴交, SP6)
จุดซานอินเจียวอยู่บริเวณขาด้านใน เหนือยอดตาตุ่มขึ้นมา 3 ชุ่น ชิดขอบหลังของกระดูกหน้าแข้ง คำว่า “ซาน”แปลว่า สาม, “อิน” หมายถึง เส้นลมปราณอิน, “เจียว” แปลว่า ตัดกัน จุดซานอินเจียวจึงเป็นจุดที่เส้นลมปราณเท้าไท่อินม้าม ,เส้าอินไตและเจวี๋ยอินตับมาตัดกัน ม้ามมีหน้าที่สร้างเลือดและลำเลียงสารอาหาร ตับมีหน้าที่ดูแลการไหลเวียนของชี่ให้แผ่ซ่านอย่างราบรื่นและสะสมเลือด ไตมีหน้าที่ควบคุมน้ำในร่างกายและกักเก็บสารจิง ทำให้มีสรรพคุณช่วยบำรุงม้าม บำรุงไต ระบายตับได้ จึงมีขอบเขตในการรักษาโรคที่ค่อนข้างกว้าง ในทางแพทย์แผนจีนเลือดและสารจิงเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบสืบพันธุ์ทั้งในเพศหญิงและชาย โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีโครงสร้างทางสรีรวิทยาเกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน ตกขาว ตั้งครรภ์และการคลอดบุตร จุดซานอินเจียวจึงเป็นจุดแรกๆที่แพทย์แผนจีนเลือกนำมาใช้รักษาโรคทางนรีเวช ไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนมาผิดปกติ ปวดประจำเดือน ตกขาวขุ่น ภาวะมีบุตรยาก อาการหลังคลอดบุตร ส่วนในเพศชายสามารถรักษาอาการฝันเปียก หลั่งเร็ว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน
จุดกวานหยวน (关元, CV4)
มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “จุดตันเถียน” สังกัดเส้นลมปราณเริ่น อยู่บริเวณท้องน้อย บนเส้นกึ่งกลางลำตัวห่างจากสะดือลงมา 3 ชุ่น
คำว่า “กวาน” แปลว่า สะสม, “หยวน” หมายถึง หยวนชี่(元气)ดังนั้น กวานหยวนจึงเปรียบเสมือนแหล่งสะสมของหยวนชี่ จึงมีสรรพคุณบำรุงหยวนชี่ อุ่นไตบำรุงหยาง ป้องกันไม่ให้หยางหลุดลอย เป็นจุดที่นิยมใช้รักษาหรือฟื้นฟูร่างกายจากโรคเรื้อรังที่เกิดจากเจิ้งชี่(正气, ภูมิต้านทาน)ของร่างกายถูกทำลาย หรือหยวนชี่ไม่เพียงพอ
_____________________________________
บทความโดย
แพทย์จีน พิมพิชญ์ มุจลินทโมลี (หมอจีน เจี่ย จิ้ง เหวิน)
贾靖雯 中医师
TCM. Dr.Pimpitch Muchalintamolee (Jia Jing Wen)
11 ส.ค. 2568
30 เม.ย 2568
11 ส.ค. 2568
30 ส.ค. 2567