Last updated: 26 ส.ค. 2568 | 140 จำนวนผู้เข้าชม |
กลไกการฝังเข็มต่อการรักษาภาวะน้ำหนักเกินชนิดปฐมภูมิ (Primary Overweight/Obesity)
ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจเรื่องรูปร่างมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อ้างสรรพคุณการลดน้ำหนัก หรือผลิตภัณฑ์ที่ทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารที่ทำให้สามารถลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็ว แต่หัวใจสำคัญของการลดน้ำหนักคือ เราไม่ได้ต้องการการลดน้ำหนักที่รวดเร็ว แต่เราต้องการการลดน้ำหนักที่คงที่ สม่ำเสมอและเป็นวินัย ใช้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างวิถีชีวิตใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ เปลี่ยนเป้าหมายจากที่ต้องการลดน้ำหนัก เป็นต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง เมื่อเป้าหมายเปลี่ยน วิธีการก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย หากเราให้ความสำคัญกับแค่ตัวเลขน้ำหนัก โดยไม่สนวิธีการ ย่อมเสี่ยงที่จะใช้วิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น อดอาหาร ทานยาถ่าย ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเกินความจำเป็น ฯลฯ
แม้การฝังเข็มจะไม่ได้มีผลต่อตัวเลขน้ำหนักโดยตรง แต่กลับเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังและไม่มีผลข้างเคียงระยะยาวให้ต้องกังวล อนึ่ง การฝังเข็มลดความอ้วน คือ การปรับสมดุลของร่างกาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพิ่มคุณภาพการนอน ปรับวิธีการกิน เช่น ในผู้ที่ติดหวาน(ซึ่งมีอธิบายภาวะเสพติดน้ำตาลในบทความก่อนหน้า) ความเครียด ซึ่งล้วนแต่มีผลกระทบต่อร่างกายทั้งสิ้น โดยกลไกการฝังเข็มต่อการรักษาภาวะน้ำหนักเกินชนิดปฐมภูมิ อ้างอิงข้อมูลจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้
การปรับสมดุลฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร (Appetite Regulation)
ฝังเข็มบริเวณจุดเฉพาะ (เช่น จุด Zusanli (ST36), Sanyinjiao (SP6), Shenmen (HT7)) สามารถกระตุ้นสมองส่วน hypothalamus ซึ่ง Hypothalamus มีบทบาทควบคุม hunger hormones ได้แก่ ลดระดับ ghrelin (ฮอร์โมนกระตุ้นความหิว) เพิ่มระดับ leptin (ฮอร์โมนกระตุ้นความอิ่ม) ผลลัพธ์คือ ความอยากอาหารลดลง อิ่มไวขึ้น ช่วยลดปริมาณการบริโภคอาหารโดยรวม
การกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System Modulation)
ฝังเข็มช่วย ให้ระบบพาราซิมพาเทติก (parasympathetic activity)ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ลดการทำงานของซิมพาเทติก (sympathetic activity) เมื่อระบบ parasympathetic ถูกกระตุ้น จะทำให้การเผาผลาญพลังงานสมดุลขึ้น ลดความเครียด (ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเกิน) กระตุ้นการย่อยอาหารที่เหมาะสม
ขออธิบายระบบพาราซิมพาเทติกและซิมพาเทติกให้เข้าใจง่ายๆดังนี้
หากร่างกายเรามีสวิตช์ควบคุม 2 โหมดหลัก เหมือนรถยนตร์ คือ
2.1 ระบบซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System)โหมดสู้หรือหนี (Fight or Flight)
ทำงานเวลาร่างกายรู้สึกว่ามีภัยหรือกำลังตื่นเต้น
ร่างกายจะเร่งทุกอย่างเพื่อพร้อมสู้ หรือวิ่งหนี
ตัวอย่าง:
- หัวใจเต้นเร็วขึ้น → ส่งเลือดไปกล้ามเนื้อมากขึ้น
- หายใจเร็วและลึกขึ้น → ได้ออกซิเจนเพิ่ม
- รูม่านตาขยาย → มองเห็นชัดขึ้น
- ระบบย่อยอาหารชะลอลง → ประหยัดพลังไว้ใช้กับกล้ามเนื้อ เหมือนกดปุ่ม “เทอร์โบ” ให้รถวิ่งพุ่งไปข้างหน้า
2.2 ระบบพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) โหมดพักและซ่อม (Rest and Digest)
ทำงานเวลาร่างกายรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย
เน้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกาย
ตัวอย่าง:
- หัวใจเต้นช้าลง
- หายใจช้าลง
- ระบบย่อยอาหารทำงานเต็มที่ → ดูดซึมสารอาหารร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมภูมิคุ้มกัน เหมือน กดปุ่ม “โหมดประหยัดพลัง” ในรถ เพื่อชาร์จแบตและดูแลเครื่องยนต์
กล่าวคือ
ซิมพาเทติก: เร่งเครื่อง → ใช้พลังงาน → สู้/หนี
พาราซิมพาเทติก: ผ่อนเครื่อง → เก็บพลังงาน → ซ่อม/พัก
หากร่างกายอยู่ในความเครียดตลอดเวลา จะกระตุ้นระบบซิมพาเทติก ทำให้ระบบย่อยอาหารและเผาผลาญพลังงานลดน้อยลง
3. ลดการอักเสบในระดับเซลล์ (Systemic Inflammation Reduction)
ในภาวะน้ำหนักเกิน ร่างกายจะมี ภาวะอักเสบเรื้อรังระดับต่ำ (low-grade chronic inflammation) งานวิจัยพบว่า ฝังเข็มช่วยลดระดับไซโตไคน์อักเสบ เช่น TNF-α, IL-6, CRP เพิ่มการหลั่งสารต้านการอักเสบ เช่น IL-10การลดอักเสบนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน (insulin sensitivity) และลดความเสี่ยงต่อการสะสมไขมันผิดปกติ
4. ผลต่อการควบคุมการทำงานของลำไส้ (Gut-Brain Axis Modulation)
ฝังเข็มมีผลปรับสมดุลจุลชีพในลำไส้ (gut microbiota) ผ่านระบบประสาทลำไส้ (enteric nervous system) งานวิจัยพบว่าจุลชีพชนิดดี (probiotics) มีบทบาทในการควบคุมน้ำหนัก ผ่านการผลิตสารเช่น short-chain fatty acids (SCFAs) ที่มีผลกระตุ้นความรู้สึกอิ่ม
5. เพิ่มการสลายไขมัน (Lipolysis) และการเผาผลาญพลังงาน (Energy Expenditure)
มีการศึกษาที่พบว่า การฝังเข็มบางรูปแบบ (เช่น electroacupuncture) สามารถกระตุ้นการหลั่งสาร catecholamines (เช่น adrenaline) ในระดับที่พอเหมาะ ส่งผลต่อการสลายไขมัน (lipolysis) ในเนื้อเยื่อไขมันขาว (white adipose tissue) และช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน (BMR)
หากสรุปให้ใจความให้กระชับ การฝังเข็มช่วยลดน้ำหนักในภาวะน้ำหนักเกินชนิดปฐมภูมิ ผ่านกลไกหลายระบบ ได้แก่
• ลดความอยากอาหาร
• ปรับสมดุลฮอร์โมนความหิว/อิ่ม
• ลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย
• กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
• ปรับสมดุลจุลชีพลำไส้
• ลดความเครียดและปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ
ภาวะแทรกซ้อนตามระบบของภาวะอ้วนเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ หากเราปล่อยปละละเลยรูปร่างและระดับน้ำตาลหรือไขมันในเลือดโดยไม่ควบคุมด้วยวิธีที่เหมาะสม มีวิถีชีวิตที่เสี่ยงต่อโรคอ้วน เช่น นอนดึก เครียด ทานอาหารแปรรูปเป็นประจำ ทานอาหารไม่ตรงเวลา ไม่ออกกำลังกาย ก็เสี่ยงที่จะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมา ดังนี้
ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจวาย หลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดดำขอด Cor pulmanale , Pulmonary embolism
ระบบต่อมไร้ท่อ : เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง Metabolic syndrome, Polycystic ovary syndrome ประจำเดือนผิดปกติ มีบุตรยาก
ระบบผิวหนัง : Striae distensae, Stasis picmentation, Lymphedema, Cellulits, Intertrigo, Carbuncles Acanthosis nigricans Skin tags
ระบบทางเดินอาหาร : ภาวะกรดไหลย้อน(gastroesophageal reflux) ภาวะไขมันเกาะตับ(nonalcoholic fatty liver disease) นิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไส้เลื่อน
ระบบทางเดินปัสสาวะและการสืบพันธุ์ : การกลั้นปัสสาวะผิดปกติ Obesity-related glomerulopathy Hypogonadism ในเพศชาย มะเร็งเต้านมและมะเร็งมดลูก ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตรยาก
ระบบการหายใจ : ภาวะหายใจลำบาก หอบหืด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(obstructive sleep apnea) Hypoventilation syndrome , Pickwickian syndrome
ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ : ข้อเสื่อม(osteoarthritis)โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพก ปวดหลัง ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง(hyperuricemia)และเก๊าต์(gout)
ระบบประสาท : หลอดเลือดสมองตีบ ความดันในศีรษะสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ(idiopathic intracanial hypertension) Meralgia paresthetica
ภาวะจิตใจ : ขาดความมั่นใจในตนเอง ซึมเศร้า
ตัวอย่างงานวิจัยอ้างอิง:
• Park, K. S., et al. (2014). Effect of acupuncture on obesity: a systematic review and meta-analysis.
• Sui, Y., et al. (2012). Acupuncture for simple obesity and its effect on leptin: a systematic review.
• Zhang, R., et al. (2018). Electroacupuncture regulates inflammation and energy metabolism in obesity through modulation of the gut-brain axis.
____________________________________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีน กนิษฐา ใจเย็น แสงสกุล (หมอจีน จาง เยว่ ฟาง)
张月芳 中医师
TCM. Dr. Kanittha Jaiyen Saengsakul ( Zhang Yue Fang)
26 ส.ค. 2568
26 ส.ค. 2568