รักษาอาการเสียงแหบด้วยการแพทย์แผนจีน

Last updated: 2 ต.ค. 2568  |  32 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รักษาอาการเสียงแหบด้วยการแพทย์แผนจีน

การพูดเป็นสื่อกลางสำคัญที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร เพื่อถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด และอารมณ์ หากเสียงแหบหรือเปลี่ยนไปจากปกติ อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเข้าสังคม หรือแม้แต่ความมั่นใจในตนเอง ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เสียงแหบอาจมีสาเหตุได้หลายประการ เช่น การอักเสบของกล่องเสียง อาการติดเชื้อ การใช้เสียงมากเกินไป หรือปัญหาจากเส้นเสียง แต่ในการแพทย์แผนจีนนั้นมองอาการนี้ว่าอาการเสียงแหบอาจเกิดจากตัวกล่องเสียงโดยตรง หรือเกิดจากการทำงานของอวัยวะภายใน ชี่ เลือด และเส้นลมปราณที่ผิดปกติ ดังนั้น ในการรักษาจึงจำเป็นต้องรักษาเส้นเสียงและวิเคราะห์ต้นกำเนิดของโรคไปพร้อมๆกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันไม่ให้อาการกลับมาเป็นซ้ำ

อวัยวะและเส้นลมปราณที่เกี่ยวข้องกับการเปล่งเสียงในทางการแพทย์แผนจีน

ในมุมมองของการแพทย์แผนจีน การกำเนิดเสียงไม่ได้เกิดจากกล่องเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการทำงานร่วมกันของอวัยวะต่างๆเช่น ปอด ไต และ ตับ ในภาวะปกติปอดทำหน้าที่ควบคุมชี่ของร่างการโดยจะเฉพาะการควบคุมการหายใจ ซึ่งจะช่วยในการเปล่งเสียง ส่วนไตเป็นแหล่งกำเนิดของชี่ทั้งร่างกายโดยจะทำหน้าที่เสริมการหายใจของปอดให้ลึกและช่วยในการเปล่งเสียง ตับมีหน้าที่เก็บและกระจายชี่เลือดเพื่อไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบคอผ่อนคลาย เมื่ออวัยวะทั้งสามทำงานสมดุลกันจะทำให้การเปล่งเลียงเป็นปกติ เนื้อเสียงใส ชัด และไม่เหนื่อยง่ายเวลาใช้เสียง โดยอวัยวะเหล่านี้จะส่งชี่และเลือดผ่านเส้นลมปราณต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมโยงกับกล่องสียงได้แก่ เส้นลมปราณปอด เส้นลมปราณไต และเส้นลมปราณตับ นอกจากนี้เส้นลมปราณเริ่น ที่วิ่งผ่านลำคอและกล่องเสียงก็มีความสำคัญ เพราะเป็นทางผ่านของชี่และเลือดไปยังลำคอ หากชี่หรือเลือดติดขัดในเส้นลมปราณเหล่านี้ อาจทำให้เสียงแหบหรือพูดลำบากได้


กลไกการเกิดโรค

ในทางการแพทย์แผนจีนมองว่าเสียงแหบเกิดจากความไม่สมดุลของชี่และเลือด ปัจจัยกระตุ้นทั้งภายในและภายนอกโดยปัจจัยที่พบได้บ่อยเช่น

ลมร้อนภายนอกเข้ากระทำ: มักมีอาการไอ เป็นไข้ เจ็บคอ และเสียงแหบเป็นต้น

การใช้เสียงดังหรือนานเกินไป: ในการพูดหรือร้องเพลงเป็นเวลานานๆ ทำให้ชี่ของปอดและไตพร่องส่งผลให้เส้นเสียงขาดการหล่อเลี้ยง จึงทำให้เสียงแหบได้

อารมณ์: ความโกรธหรือเครียดมักส่งผลให้ชี่ของตับติดขัด เลือดบริเวณเส้นเสียงขาดการหล่อเลี้ยงทำให้เสียงแหบ
ความแห้ง: การอยู่ในห้องแอร์หรือดื่มน้ำน้อย ทำให้ของเหลวในปอดพร่อง คอแห้ง เสียงแหบ

เมื่อชี่ปอดไม่พอจะทำให้กล่องเสียงไม่ชุ่มชื้น ขาดการหล่อเลี้ยง เสียงจึงแหบหรือพูดเบา การวินิจฉัยจะประเมินลิ้น ชีพจร และประวัติการใช้เสียง เพื่อระบุว่าเป็นภาวะร้อน แห้ง หรือพร่อง เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสม


การรักษาด้วยการฝังเข็ม

การฝังเข็มช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือด ลดการอักเสบ และคืนสมดุลอวัยวะ จุดที่ใช้บ่อยได้แก่


เลี่ยเชวีย 列缺(LU7,LieQue) และ ไท่เยวียน 太渊(LU9,TaiYuan) เพื่อเสริมชี่ของปอด

เหอกู่ 合谷(LI4,HeGu) และ เทียนทู 天突(ST9,TianTu) ช่วยกระจายลมร้อน กระตุ้นกล่องเสียง

เซิ่นซู 肾俞(BL23,ShenShu) และ ไท่ซี太溪 (KI3,TaiXi) บำรุงไต


โดยการเลือกจุดจะต้องเลือกจุดตามสภาพร่างกายของแต่ละคน



การรักษาด้วยสมุนไพรจีน


สมุนไพรจีนจะเน้นไปในการปรับสมดุลและหล่อเลี้ยงกล่องเสียง ตัวอย่างตำรับที่ใช้บ่อย เช่น


ซางจวี๋อิ่น (桑菊飲 – Sang Ju Yin) สำหรับลมร้อนเจ็บคอ

เสินหลิงไป๋จู๋ซาน (參苓白朮散) เหมาะสำรับกลุ่มอาการม้ามกระเพาะพร่อง เหนื่อยง่าย เสียงแหบเบา

โดยอาจใช้ร่วมกับการทานสมุนไพรเดี่ยวอย่าง เก็กฮวย และ ชะเอมเทศ เพื่อลดความร้อน และ อาการบวมของกล่องเสียง


การดูแลตัวเอง


นอกจากการรักษา การปรับพฤติกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฎิบัติร่วมกับการรักษา เช่น


1. พักเสียง: หลีกเลี่ยงการตะโกนหรือพูดเสียงดังเป็นเวลานาน

2. ดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ: เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของกล่องเสียง

3. อาหาร: เลือกอาหารอ่อนๆ ชุ่มคอ เช่น สาลี่ ชามะนาวน้ำผึ้ง หลีกเลี่ยงของทอด มัน และแอลกอฮอล์

4. จัดสิ่งแวดล้อม: เพิ่มความชื้นในห้องหากต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ลดการตากแอร์หรือพัดลมเป็นเวลานานๆ

5. จัดการอารมณ์: ฝึกหายใจลึกๆ หรือทำสมาธิ ลดความเครียดที่อาจส่งผลกระทบต่อตับ


การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้การรักษาด้วยการฝังเข็มหรือสมุนไพรเห็นผลเร็วขึ้น และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ ทำให้เสียงฟื้นกลับมาชัดเจนได้ง่ายยิ่งขึ้น

 
เคสตัวอย่าง

ผู้ป่วย ณัฐxxx เพศหญิง อายุ 40 ปี  HN3xxx34

วันที่เข้ารับการรักษา 26/4/68

อาการสำคัญ  มีอาการเสียงแหบเป็นๆหายๆ3เดือน

อาการปัจจุบัน อาการเสียงแหบของผู้ป่วยจะแย่ลงเมื่อเกิดความเครียดหรือใช้เสียงต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากผู้ป่วยมีอาชีพสอนร้องเพลงจึงจำเป็นต้องใช้เสียงต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้อาการเป็นๆหายๆ หากเป็นมากจะรู้สึกจุกแน่นที่ลำคอร่วมด้วย ช่วง 1 เดือนหลังเสียงแหบจนไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นให้เข้าใจได้  พบว่าเมื่อมีอาการโมโหหรือว่าพักผ่อนไม่เพียงพออาการจะแย่ลง มีภาวะนอนไม่หลับร่วมด้วย

ผลการรักษา

แนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยการฝังเข็มต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยเลือกจุดบริเวณคอและจุดตามเส้นเส้นลมปราณ ปอดไตและตับ พร้อมกระตุ้นไฟฟ้าบริเวณจุดใกล้ๆลำคอ

หลังการรักษา 3 ครั้ง อาการเสียงแหบเริ่มลดลงสามารถใช้เสียงต่อเนื่องได้นานขึ้น การนอนหลับง่ายขึ้นและยาวขึ้น แต่ยังมีการเสียงแหบอยู่บ้างเมื่อใช้เสียงเป็นเวลานาน  อาการจุกแน่นที่คอเริ่มหายไป ความเครียดลดลง

หลังการรักษา 8 ครั้ง ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้เสียงได้ปกติ โดยไม่มีเสียงแหบอีก

_______________________________________________________

บทความโดย
ดร.พจ. พีระพงศ์  เลิศนิมิตพันธ์ (หมอจีน เฉิน เจียง เฉิง)  
陈江成  中医师
TCM. Dr. Peeraphong Lertnimitphun (Chen Jiang Cheng)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้