Last updated: 19 พ.ค. 2568 | 691 จำนวนผู้เข้าชม |
การดูแลผิวพรรณในแต่ละฤดูกาลตามหลักการแพทย์แผนจีน
ผิวพรรณของเรามักได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและฤดูกาล ในประเทศไทย แบ่งออกเป็นสามฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว แม้ว่าอากาศจะไม่หนาวจัดเหมือนประเทศในเขตหนาวก็ตาม การปรับตัวของร่างกายและผิวพรรณจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลเหล่านี้อย่างสอดคล้องกัน ศาสตร์การแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine: TCM) มองร่างกายและธรรมชาติเป็นองค์รวม โดยเน้นการรักษาสมดุล "อิน" และ "หยาง" ผ่านการดูแลผิว การปรับพฤติกรรม และการใช้สมุนไพร
ศาสตร์การแพทย์แผนจีน กล่าวถึงฤดูกาลมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย ฤดูกาลทั้งสามในประเทศไทย ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ส่งผลต่อสภาพผิวที่แตกต่างกันไป การรักษาสมดุลของผิวในแต่ละฤดูจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพผิวอย่างยั่งยืน
1. ฤดูร้อน (มีนาคม - มิถุนายน)
ฤดูร้อนในประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงมาก อากาศร้อนและแห้ง ทำให้ผิวมันและเกิดปัญหาสิวได้ง่าย เพราะความร้อนภายนอกทำให้พลังหยางในร่างกายเพิ่มขึ้น
คำแนะนำในการดูแลผิว
- สมุนไพรที่แนะนำ: ใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นต้มดื่ม เช่น ใบบัวบก (Centella asiatica, 积雪草) หรือสามารถชงดื่มเป็นชา เช่นใบสะระแหน่ (Bo He 薄荷) และ เก๊กฮวย (Chrysanthemum, 菊花) ที่ช่วยระบายความร้อน ลดอาการอักเสบ และฟื้นฟูผิว
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรที่ให้ความเย็น เช่น ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera, 芦荟) เพื่อช่วยลดอาการผิวไหม้จากแสงแดดและเพิ่มความชุ่มชื้น
- การรับประทานอาหาร: ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเพื่อลดความร้อนในร่างกาย เช่น แตงโม แตงกวา ผลไม้และผักที่ชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดหรือมัน ที่สามารถเพิ่มความร้อนให้แก่ร่างกาย เช่น ของทอดหรือเครื่องเทศรสจัด
การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะหรือไทเก๊ก ในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อให้ร่างกายไม่ร้อนจนเกินไป
การเดินเล่นในที่ร่มหรือในสวนก็ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและเพิ่มอินได้
การพักผ่อน: พักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำและอาการร้อนใน
2. ฤดูฝน (กรกฎาคม - ตุลาคม)
ฤดูฝนมีความชื้นสูง ทำให้ผิวหน้ามันเยิ้ม อับชื้น และเกิดสิวหรือผดผื่นได้ง่าย ซึ่งในทางแพทย์แผนจีน สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นส่งผลให้พลังงานในร่างกายเกิดการติดขัดและไม่สมดุล
คำแนะนำในการดูแลผิว:
- สมุนไพรที่แนะนำ: ใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ขจัดความชื้นต้มดื่ม เช่น หญ้าหนวดแมว (Orthosiphon stamineus, 猫须草) ลูกเดือย (coix seed, 薏苡仁) ซึ่งช่วยขับความชื้นออกจากร่างกาย และ เห็ดหลินจือ (Reishi mushroom, 灵芝) ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอ
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันและเนื้อบางเบา ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน เช่น ผลิตภัณฑ์จาก ชาเขียว (Green tea, 绿茶) ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยฟื้นฟูผิวจากการอักเสบ
- การรับประทานอาหาร: ควรรับประทานอาหารที่ช่วยขับความชื้นออกจากร่างกาย เช่น ดื่มน้ำขิงในตอนเช้า เพื่อช่วยระบบย่อยอาหารและขับความชื้น, เห็ดหูหนูดำ ช่วยขับความร้อนและความชื้นออกจากร่างกาย และยังช่วยปรับสมดุลการย่อยอาหาร, ถั่วเขียวช่วยขับความร้อนและความชื้น มีฤทธิ์เย็นและช่วยปรับสมดุลร่างกาย, ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นและช่วยส่งเสริมการย่อยอาหาร ขับความชื้น และช่วยลดอาการบวมน้ำ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เย็นหรือดิบมากเกินไป เช่น น้ำแข็ง หรือของหมักดองที่อาจทำให้ร่างกายสะสมความชื้น
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายแบบกระตุ้นการหมุนเวียนเลือด เช่น ไทเก๊ก ชี่กง หรือการวิ่งเบาๆ ช่วยในการขับความชื้นออกจากร่างกาย การฝึกท่าโยคะที่เน้นการหายใจจะช่วยสร้างพลังงานในร่างกาย
- การพักผ่อน: พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อรักษาสมดุลของพลังงานในร่างกาย และหลีกเลี่ยงการตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นมากเกินไป
3. ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์)
แม้ว่าอากาศในบางพื้นที่ของประเทศไทยจะไม่หนาวจัด แต่ฤดูหนาวยังคงมีผลทำให้ผิวแห้ง เนื่องจากอากาศเย็นและแห้งมากขึ้น ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดการลอกเป็นขุยได้ง่าย
คำแนะนำในการดูแลผิว:
- สมุนไพรที่แนะนำ: ใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์บำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นต้มดื่ม เช่น หวงฉี (Astragalus, 黄芪) ที่ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งเสีย ถั่วเหลือง (Soybean, 黄豆) ซึ่งช่วยเสริมสร้างชั้นผิวให้แข็งแรง รากชะเอมเทศ (Licorice, 甘草) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการไอและระคายคอที่เกิดจากความแห้งในช่วงหน้าหนาว เมล็ดบัว (Lotus seed, 莲子) เมล็ดบัวมีฤทธิ์บำรุงอินและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย บำรุงปอดและช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความชุ่มชื้นสูง เน้นการใช้น้ำมันบำรุงผิวและครีมเข้มข้นเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว หรือควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก (Olive oil, 橄榄油) น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil, 椰子油) หรือ น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba oil, 荷荷巴油) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวลึก ช่วยให้ผิวนุ่มและลดความแห้งกร้านที่อาจเกิดขึ้นจากอากาศหนาวที่แห้ง
- การรับประทานอาหาร: ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์อุ่นและบำรุงร่างกาย เช่น ซุปกระดูก ต้มจืด ผักที่มีฤทธิ์อุ่น เช่น ฟักทอง ขิง หรือหัวไชเท้า เพื่อเพิ่มพลังหยางในร่างกาย น้ำชาขิงอุ่น ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและบำรุงร่างกายในช่วงที่อากาศเย็น
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายควรเน้นการเพิ่มความอบอุ่นในร่างกาย เช่น การยืดกล้ามเนื้อ ฝึกโยคะ หรือการออกกำลังกายเบาๆ ในที่อบอุ่นเพื่อช่วยเสริมสร้างการไหลเวียนของเลือดและพลังงานภายใน
- การพักผ่อน: พักผ่อนอย่างเพียงพอในช่วงที่อากาศเย็นเพื่อเสริมพลังหยางของร่างกาย หลีกเลี่ยงการนอนดึกการใช้ชีวิตเวลากลางคืน หรือทำงานหนักที่อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลง
งานวิจัยสนับสนุนการดูแลผิวตามหลักแพทย์แผนจีน
งานวิจัยใน Journal of Ethnopharmacology ปี 2018 พบว่าสมุนไพร เช่น ใบบัวบกและเก๊กฮวย มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพผิวที่เสียหายจากแสงแดด งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า สมุนไพรดังกล่าวสามารถเสริมสร้างการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดอาการแดงจากการอักเสบ และช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นป้องกันผิว
ในปี 2021 งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicineได้ศึกษาประสิทธิภาพของเห็ดหลินจือ พบว่าเห็ดหลินจือสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวที่แห้งและช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว นอกจากนี้ เห็ดหลินจือยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว และส่งเสริมการสร้างเซลล์ใหม่
การดูแลผิวพรรณในแต่ละฤดูกาลตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับธรรมชาติและสภาพอากาศ การใช้สมุนไพรที่เหมาะสมในแต่ละฤดูสามารถช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น การรักษาสมดุลในร่างกายด้วยวิธีการแบบองค์รวมนี้ไม่เพียงแค่ป้องกันปัญหาผิว แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอีกด้วยค่ะ
________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีนจีนดายุ สาธุกิจชัย (หมอจีน จาง ลี่ เจิน)
张丽真 中医师
TCM. Dr. Dayu Sathukijchai (Zhang li zhen)
แผนกอายุรกรรมภายนอก คลินิกดูแลสุขภาพผิวพรรณ
27 มิ.ย. 2568
27 มิ.ย. 2568
27 มิ.ย. 2568
27 มิ.ย. 2568