Last updated: 27 ส.ค. 2568 | 63 จำนวนผู้เข้าชม |
ตามทฤษฎีของศาสตร์การแพทย์แผนจีนระบุไว้ถึงพัฒนาการช้าในเด็กจัดอยู่ในกลุ่มโรคอู่ฉืออู๋หร่วน(五迟、五软)หรือพัฒนาการช้า5ประการและความอ่อนแรง5ประการ โดยมีบันทึกไว้ในคัมภีร์จูปิ้งหยวนโหวลุ่นกล่าวถึงอาการของกลุ่มโรคดังกล่าวไว้ว่า ฟันไม่ขึ้น,อายุหลายขวบปียังไม่เดิน,ผมไม่ขึ้น,4-5ขวบยังไม่พูด《诸病源候论·小儿杂病诸候》中就记载有“齿不生候”、“数岁不能行候”、“头发不生候”、“四五岁不能语候”。และยังมีบันทึกเพิ่มเติมในคัมภีร์เสี่ยวเอ๋อร์เย่าเจิ้งจื๋อเจวี๋ยอีกว่า ร่างกายเติบโตแต่ไม่เดิน ถึงเดินแต่ไม่มั่นคง ฟันไม่ขึ้นถึงขึ้นก็หลุดไว ผมไม่งอกถึงงอกกลับไม่ดำและแห้งกร้าน คัมภีร์จางซื่ออีทงอธิบายสาเหตุของอาการดังกล่าวไว้ว่าเกิดจากสารจิงและเลือดของคุณพ่อคุณแม่ไม่เพียงพอ ชี่ไตพร่องขาดการบำรุงหล่อเลี้ยงร่างกายทำให้ทารกอ่อนแอ《小儿药证直诀·杂病证》云:“长大不行,行则脚细;齿久不生,生则不固;发久不生,生则不黑。”《张氏医通·婴儿门》指出其病因是“皆胎弱也,良由父母精血不足,肾气虚弱,不能荣养而然”。
พัฒนาการช้า5ประการ ได้แก่
ยืนช้า : อายุ 24-36 เดือนยังไม่สามารถยืนได้
เดินช้า :อายุ 24-36 เดือนยังไม่สามารถเดินได้
ฟันขึ้นช้า : อายุ 12 เดือนฟันน้ำนมยังไม่ขึ้นหรือขึ้นช้า
ผมขึ้นช้า : หลังคลอดไม่มีผมหรือผมบาง
พูดช้า : อายุ 12-24 เดือนยังไม่สามารถพูดได้
ความอ่อนแรง5ประการ ได้แก่
คออ่อนแรง : อายุ 6 เดือนคอยังไม่แข็ง อ่อนแรงไม่สามารถชันคอได้
ปากอ่อนแรง : อายุ 6 เดือนยังไม่มีแรงเคี้ยว น้ำลายไหล
มืออ่อนแรง : อายุ 6 เดือนยังไม่มีแรงยกแขนหรือกำมือ
เท้าอ่อนแรง : อายุ 24 เดือนยังไม่สามารถยืนได้
กล้ามเนื้ออ่อนแรง : ผิวหนังหย่อนกล้ามเนื้อไม่มีแรง
ซึ่งในมุมมองทางการแพทย์แผนจีนต่ออาการพัฒนาการทางด้านกายภาพช้าในเด็กนอกจากมีสาเหตุจากปัจจัยก่อนกำเนิดแล้วยังมีปัจจัยหลังกำเนิดอีกด้วย ปัจจัยก่อนกำเนิดได้แก่ทุนก่อนกำเนิดไม่เพียงพอหรือไตพร่องจากสารจิงชี่(精气)และเลือดของคุณพ่อคุณแม่ไม่เพียงพอ ตั้งครรภ์เมื่อตอนอายุมาก โภชนาการที่ไม่ดีหรือการใช้ยาผิดขณะตั้งครรภ์ ทำลายหยวนชี่(元气)หรือชี่ต้นทุนแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ ทำให้สมองไขสันหลังและอวัยวะภายในอ่อนแอส่งผลให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นไม่ได้รับการหล่อเลี้ยง
ปัจจัยหลังกำเนิดได้แก่อุบัติเหตุขณะคลอดเช่นรกพันคอ คลอดยาก ทำให้สมองขาดเลือดหรือเลือดออกในสมอง ภาวะไข้สูงหลังคลอด ชักเกร็ง หรือการบำรุงด้านโภชนาการที่ไม่เพียงพอมีภาวะขาดสารอาหาร ทำให้ทุนหลังกำเนิดพร่องอวัยวะกระเพาะและม้ามที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารอ่อนแอ เลือดและชี่พร่องส่งผลต่อการลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะและกล้ามเนื้อ
การรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นถึงการบำรุงตับเสริมความแข็งแรงของเส้นเอ็นเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ บำรุงไตเสริมไขกระดูก บำรุงชี่และเลือดด้วยการฝังเข็มตามจุดบนเส้นลมปราณบนร่างกายหรือฝังเข็มศีรษะในเด็กที่กะโหลกปิดสมบูรณ์แล้ว จุดฝังเข็มที่ใช้บ่อยเช่นจุดซื่อเสินชง(四神聪, EX-HN1),จุดเซิ่นซู (肾俞,BL23), จุดไท่ซี(太溪,KI3), จุดหยางหลิงเฉวียน(阳陵泉,GB34) การรับประทานยาสมุนไพรจีน การนวดทุยหนา และเพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนสามารถผสมผสานการรักษาในด้านต่างๆเข้าด้วยกันเช่นการฝึกพูด ฝึกกระตุ้นพัฒนาการ หรือกายภาพบำบัดควบคู่กันไปเป็นต้น
จุดซื่อเสินชง(四神聪, EX-HN1)อยู่บนศีรษะ รอบจุดไป่หุ้ย(百会,GV20)โดยห่างไปทางด้านหน้าด้านหลัง ด้านซ้ายและด้านขวาข้างละ 1 ชุ่น
จุดเซิ่นซู (肾俞,BL23) อยู่บริเวณหลังล่าง ระดับขอบล่างของกระดูกสันหลังส่วนเอวข้อที่ 2 (L2) ห่างจากแนวกึ่งกลางลำตัวออกไปด้านละ 1.5 ชุ่น (ครึ่งหนึ่งจากแนวกลางถึงขอบสะบักด้านใน)
จุดไท่ซี(太溪,KI3)อยู่บริเวณข้อเท้าด้านใน จุดกึ่งกลางระหว่างตาตุ่มด้านในและเอ็นร้อยหวาย
จุดหยางหลิงเฉวียน(阳陵泉,GB34)อยู่บริเวณหน้าแข้งด้านนอก ตรงรอยบุ๋มด้านหน้าเฉียงลงล่างเล็กน้อยข้างหัวกระดูกน่อง( Fibula)
_______________________________________________________________________
แพทย์จีน สุกัญญา เสรีรักษ์จุฑารังษี (หมอจีน โจว เยว่ หง)
周月虹 中医师
TCM. Dr. SUKANYA SERIRUKCHUTARUNGSEE