การดูแลหลังคลอดในศาสตร์การแพทย์แผนจีน

Last updated: 23 ก.ย. 2568  |  150 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การดูแลหลังคลอดในศาสตร์การแพทย์แผนจีน

การแพทย์แผนจีนมีแนวทางการดูแลหลังคลอด (中医产后调理 ) ที่ใช้กันมายาวนานกว่า 2,000 ปี การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและจิตใจที่สำคัญสำหรับสตรี การช่วยให้สตรีฟื้นฟูสุขภาพกายและใจอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นคุณแม่ที่มีความสุขถือเป็นประเด็นสำคัญ 

มุมมองของแพทย์แผนจีนเกี่ยวกับการดูแลหลังคลอด

“การพักฟื้นหลังคลอดบุตร” (坐月子/月内) เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยเชื่อว่าหลังคลอดร่างกายของแม่จะอ่อนแอและต้องการการพักฟื้นอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในระยะยาว ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 30 วันสำหรับคลอดธรรมชาติ หรือ 45 วันสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด 

โดยในช่วงเวลานี้ คุณแม่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เช่น การดูแลและสมานแผล บำรุงร่างกาย ช่วยเพิ่มน้ำนม เป็นต้น

การรักษาด้วยยาสมุนไพรจีน

“เซิงฮว่าทัง”(生化汤) ประกอบด้วยสมุนไพรหลัก ได้แก่ หงฮวา(红花) ตังกุย(当归) เผ้าเจียง(炮姜) เถาเหริน(桃仁) ชวนซฺยง(川芎) จื้อกันเฉ่า(炙甘草) อี้หมูเฉ่า(益母草) เป็นสมุนไพรที่ช่วยบำรุงเลือด กระตุ้นการไหลเวียนเลือด อุ่นเส้นลมปราณ ขจัดภาวะเลือดคั่ง มีส่วนช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก ช่วยขับน้ำคาวปลา ให้มดลูกเข้าอู่ ประจำเดือนมาปกติ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย สามารถรับประทานได้ตั้งแต่วันที่สองหลังคลอดธรรมชาติ และ5-7 วัน สำหรับการผ่าตัดคลอด แนะนำให้เริ่มรับประทานตั้งแต่วันที่สี่เป็นเวลา 3-5 วัน โดยทั่วไปไม่ควรรับประทานเกินสองสัปดาห์หลังคลอด 

อีกปัญหาหนึ่งที่ต้องเผชิญหลังคลอดคือน้ำนมแม่ไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ“ชี่เลือดพร่อง(气血不足)”และ“ชี่ตับติดขัด(肝郁气滞)”แม้ว่าแพทย์แผนจีนสามารถกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ เช่น การใช้ยาบำรุง“ตังกุยปู่เสวี่ยทัง(当归补血汤)”และ“เซียวเหยาส่าน(逍遥散)”เป็นต้น แต่คุณแม่ที่กำลังให้นมบุตรควรจำไว้ว่าอาหารคือแหล่งที่มาของน้ำนมแม่ ดังนั้นซุปและอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนจะช่วยเสริมบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย และหลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารฤทธิ์เย็น หรืออาหารที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร 

นอกจากนี้ คุณแม่มือใหม่มักประสบปัญหาความเครียดทางอารมณ์เนื่องจากความไม่คุ้นเคยหรือความวิตกกังวลที่มากเกินไป การผ่อนคลายอย่างเหมาะสม การรักษาทัศนคติเชิงบวก การออกกำลังกายเบา ๆ และการขอความช่วยเหลือในบางเรื่อง ก็สามารถช่วยลดความกดดันในชีวิตประจำวันได้

คำแนะนำด้านโภชนาการและสุขภาพ

ดังคำกล่าวที่ว่า “药补不如食补” การบำรุงด้วยยาไม่ดีเท่าการบำรุงด้วยอาหาร สำหรับคุณแม่หลังคลอด การเลือกใช้ยาและอาหารเสริมที่เหมาะสมในช่วงหลังคลอดจะช่วยให้ฟื้นตัวจากอาการอ่อนแรงหลังคลอดได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน และโภชนาการที่เหมาะสมก็แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถแบ่งได้คร่าว ๆ ว่าเป็นฤทธิ์ร้อนหรือฤทธิ์เย็น 

คุณแม่ที่มีสภาพร่างกาย “ร้อน” มีแนวโน้มที่จะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ริมฝีปากแดง ท้องผูก และน้ำนมเหลืองข้น ในกรณีนี้ โภชนาการที่มีฤทธิ์เป็นกลาง เช่น ไก่ต้มมะละกอ หรือปลากระพงต้มขิงจะเหมาะสมกว่า 

คุณแม่ที่มีสภาพร่างกาย “เย็น” มีแนวโน้มที่จะมีอาการริมฝีปากซีด ท้องเสีย มือเท้าเย็น และน้ำนมสีซีดจาง ในกรณีเหล่านี้ ขอแนะนำโภชนาการที่มีฤทธิ์อุ่น ๆ เช่น ชาลำไยพุทราจีน หรือโจ๊กข้าวกล้องวอลนัท เป็นต้น 

โภชนาการที่ช่วยในการบำรุงน้ำนม ได้แก่ ซุปกระดูกหมูใส่ถั่วลิสง ซุปงาดำหวาน เป็นต้น โภชนาการเหล่านี้สามารถรับประทานได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่ให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้การผลิตน้ำนมลดลง เช่น มอลต์(ข้าวงอกที่ทำให้แห้ง)และกุ้ยช่าย เป็นต้น

นอกจากนี้ การสัมผัสกับลมเย็น การอาบน้ำเย็น การออกกำลังกายมากเกินไป การยืนเป็นเวลานาน การยกของหนัก การบริโภคอาหารดิบหรือเย็นจัด ล้วนส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูร่างกายของสตรีหลังคลอด

ดังนั้นนอกจากการใช้ยาและอาหารเสริมแล้ว โภชนาการที่สมดุล การพักผ่อนที่เพียงพอ จิตใจที่สงบ และการออกกำลังกายอย่างพอเหมาะก็ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น 


อ้างอิง:彭溫雅(2018)‧ 坐好月子,過好日子:中醫師彭溫雅的女性調理書‧台北市:時報出版。

____________________________________________________

บทความโดย
แพทย์จีน ปะการัง เขตคาม (หมอจีน ข่าย ซิน)
凯心 中医师
TCM. Dr. Pakarung Khetkam (Kai xin)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้