Last updated: 2 ต.ค. 2568 | 69 จำนวนผู้เข้าชม |
ศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีการแบ่งประเภทของผิวโดยพิจารณาจากปริมาณน้ำในผิว ระดับการขับของต่อมไขมัน ค่า pH และปฏิกิริยาของผิวต่อสิ่งเร้าภายนอก การดูแลตามลักษณะเฉพาะของผิวแต่ละประเภท เป็นข้อกำหนดพื้นฐานของการดูแลความงามและสุขภาพผิวตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
ประเภทผิวที่พบบ่อยมี 5 ชนิด ได้แก่ ผิวธรรมดา (中性皮肤) ผิวแห้ง (干性皮肤) ผิวมัน (油性皮肤) ผิวผสม (混合型皮肤) และผิวแพ้ง่าย (敏感性皮肤)
เพราะแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ผิวแต่ละประเภทจึงต้องการวิธีการดูแลที่ต่างกัน ดังนั้นการเข้าใจลักษณะเฉพาะของผิวแต่ละชนิดและดูแลให้เหมาะสม จะช่วยให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพที่ดี และทำให้ผิวสุขภาพแข็งแรงอย่างถูกต้อง
1. ผิวธรรมดา (中性皮肤)
ผิวธรรมดาถือเป็นผิวที่สมบูรณ์แบบ ค่า pH อยู่ระหว่าง 5–5.6 การขับไขมันอยู่ในระดับปานกลาง ผิวละเอียด รูขุมขนเล็ก ยืดหยุ่นดี ไม่แห้งหรือมันเกินไป ทนต่อสิ่งเร้า ไม่เกิดอาการแพ้หรือเปราะบางง่าย
หลักการดูแลผิวธรรมดา
1.1 การทำความสะอาด – ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตามฤดูกาล
-ช่วงฤดูร้อนอากาศร้อน ผิวมันขับน้ำมันมาก ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าชนิดควบคุมความมัน หรือที่มีความเป็นกรดอ่อน
-ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่อากาศแห้ง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ควรทำความสะอาดผิวหน้าช่วงเช้าและก่อนนอนวันละ 2 ครั้ง
1.2 การให้ความชุ่มชื้น – ถึงแม้ว่าผิวธรรมดาจะมีความทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอก แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวที่อากาศแห้ง ก็อาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ จึงควรใส่ใจเรื่องความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าควรเลือกสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเพราะช่วยในการเพิ่มน้ำในผิวและยับยั้งการสูญเสียน้ำได้ นอกจากนี้ ในการแต่งหน้า ควรใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยน ร่วมกับการดูแลความสะอาดที่เหมาะสมเพื่อช่วยปกป้องผิว
1.3 การปกป้องจากแสงแดด – ผู้ที่มีผิวธรรมดาหากถูกแสงแดดเป็นเวลานาน อาจได้รับความเสียหายให้กับผิวได้จากรังสีอัลตราไวโอเลต ดังนั้น ผู้ที่ทำงานในอาคารควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 และ PA+++ และ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF15/PA+++ ขึ้นไป และทาซ้ำทุก ๆ 2–3 ชั่วโมง
2. ผิวแห้ง (干性皮肤)
ผิวแห้ง คือผิวที่มีค่า pH ประมาณ 4.5–5 ต่อมไขมันขับออกน้อย ผิวมีลักษณะแห้ง ขาดความเงางาม รูขุมขนไม่ชัด เกิดริ้วรอยเล็กๆได้ง่าย และไวต่อสิ่งเร้า ระคายเคืองง่าย
ผิวแห้งสามารถแบ่งย่อยได้เป็น “ผิวแห้งจากขาดน้ำ”( 缺水性干性皮肤) และ “ผิวแห้งจากขาดน้ำมัน” (缺油性干性皮肤) ซึ่งการดูแลนั้นต้องเลือกให้เหมาะสมกับสาเหตุความแห้งของผิว
หลักการดูแลผิวแห้ง
2.1 การทำความสะอาด – ไม่ควรล้างหน้าหรืออาบน้ำบ่อยจนเกินไป และควรใช้น้ำอุณภูมิปกติ อุณหภูมิน้ำไม่ควรร้อนและระยะเวลาอาบน้ำไม่ควรเกิน 10 นาทีจึงจะเหมาะสม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีสารทำความสะอาดอ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ให้ความมัน ความชุ่มชื้น เพื่อจะไม่ทำลายชั้นไขมันของผิว สำหรับผิวที่แพ้ง่ายต่อเครื่องสำอาง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่ก่อการระคายเคือง
2.2 การเติมน้ำ – สามารถใช้โทนเนอร์หรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อช่วยคงสภาพน้ำในผิว หากจำเป็นควรใช้ครีมบำรุงผิวชนิดเข้มข้น เช่น ครีมบำรุงผิวหรือไนท์ครีม
2.3 การรักษาความชุ่มชื้น – เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนผิวแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีทั้งความมันและความชุ่มชื้นผสมกัน หลังทาครีมบำรุง ควรใช้โลชั่นน้ำมันหรือเซรั่ม (เช่น น้ำมันมะกอก) นวดเบา ๆ ให้ซึมลงผิว เพื่อสร้างฟิล์มป้องกันผิว ควรใช้โลชั่นบำรุงที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มและซึมง่ายจะเหมาะสมที่สุด
ควรใช้ครีมทาหน้าบำรุงทุกวัน เช้าและก่อนนอน เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเก็บกักน้ำไว้ในผิว และก่อนแต่งหน้าควรใช้เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น
ริมฝีปากควรใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ
2.4 การปกป้องผิวจากแสงแดด – ผู้ที่ทำงานในอาคารควรใช้ครีมกันแดด SPF 15, PA+++ และทาซ้ำทุก ๆ 4 ชั่วโมง
ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15, PA++++ และทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมง
2.5 การเลือกรับประทานอาหาร – ควรเลือกอาหารที่มีไขมันและวิตามินเอสูง เช่น ถั่ว นม ไข่ ตับหมู น้ำมันตับปลา แครอท และผลไม้สด ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และอาหารรสจัด
3. ผิวมัน (油性皮肤)
ผิวมัน คือผิวมีค่า pH ระหว่าง 5.6–6.6 มีการขับไขมันมาก ทำให้ผิวมันและเป็นเงา ผิวมีความยืดหยุ่นดี แต่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่ค่อยเกิดริ้วรอย และทนต่อสิ่งเร้าภายนอก แต่เนื่องจากมีการขับไขมันมาก จึงทำให้เกิดสิวและสิวอุดตันได้ง่าย ดังนั้น การดูแลผิวมันควรมุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป และควบคุมการหลั่งน้ำมันของผิว
หลักการดูแลผิวมัน
3.1 การทำความสะอาด – ผิวมันมักมีการขับไขมันมาก ดังนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น และใช้น้ำอุ่นประมาณ 35℃ ล้างหน้า วันละ 2–3 ครั้ง (เช้า 1 ครั้ง และก่อนนอน 1 ครั้ง) หากอากาศร้อนสามารถเพิ่มจำนวนครั้งได้ตามความเหมาะสม
3.2 การควบคุมความมันและให้ความชุ่มชื้น – สำหรับผิวมันที่ขาดน้ำ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันในน้ำ (water-in-oil) เช่น โลชั่น หรือ เจลบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันและเพิ่มความชุ่มชื้น และควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางเนื้อหนักเกินไป โดยเฉพาะรองพื้น เพราะอาจทำให้การขับไขมันเพิ่มขึ้น หรือทำให้รูขุมขนอุดตัน
3.3 การปกป้องผิวจากแสงแดด – ผู้ที่ทำงานในอาคารควรใช้ครีมกันแดด SPF15, PA+++ และทาซ้ำทุก 4 ชั่วโมง
ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป, PA++++ และทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมง
3.4 การเลือกรับประทานอาหาร – ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารทอด ของหวาน โดยเฉพาะช็อกโกแลต ควรรับประทานอาหารรสเบา เน้นผักและผลไม้สดเป็นหลัก
4. ผิวผสม (混合性皮肤)
สำหรับผู้ที่มีผิวผสม จะมีลักษณะทั้งผิวแห้งและผิวมัน โดยทั่วไปบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก คาง) จะเป็นผิวมัน ส่วนแก้มสองข้างนั้นมักเป็นผิวแห้ง การดูแลผิวผสมนั้น ควรเลือกวิธีดูแลแยกกันตามพื้นที่ผิว คือใช้วิธีดูแลผิวแห้งกับส่วนที่แห้ง และใช้วิธีดูแลผิวมันกับส่วนที่มัน
5. ผิวแพ้ง่าย (敏感性皮肤)
ผิวประเภทนี้แสดงออกด้วยการที่เกราะป้องกันผิวทำงานได้น้อย ช่องว่างระหว่างเซลล์หลวม และเส้นเลือดฝอยขยายตัว ผิวประเภทนี้ไวต่อสิ่งเร้าภายนอกง่าย มักเกิดรอยแดง คัน หรือแสบร้อนได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น สาเหตุหลักมาจากภูมิคุ้มกัน (immunoglobulin) ที่ไวเกินไป จึงไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย
หลักการดูแลผิวแพ้ง่าย
5.1 การทำความสะอาด – ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการทำความสะอาดผิว ไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไป หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความเป็นด่างสูง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความเป็นกรดอ่อนและอ่อนโยนต่อผิว
5.2 การเติมน้ำให้ผิว – เลือกโทนเนอร์หรือโลชั่นที่มีคุณสมบัติลดอาการแพ้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว หรือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง หรือเครื่องสำอางชนิดพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
5.3 การปกป้องผิวจากแสงแดด – สำหรับผิวแพ้ง่าย การป้องกันแสงแดดถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สามารถเลือกใช้สเปรย์กันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA++ ใช้ทุก 2–4 ชั่วโมง และต้องระวังความเสี่ยงที่ครีมกันแดดเองอาจก่อการแพ้ได้ ดังนั้นควรใช้วิธีทางกายภาพร่วมด้วย เช่น การใส่หมวก กางร่ม หลีกเลี่ยงแสงแดด เป็นต้น
อ้างอิง
中医美容学/刘宁主编。一北京中国中医药出版社,2005.11、(2015.3重印)
新世纪全国高等中医医院校中医美容系列教材
______________________________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีน รัญชนา ตั้งมั่นเจริญสุข (ซุน หลี)
孙梨 中医师
TCM. Dr. Runchana Tangmancharoensuk (Sun Li)
3 ต.ค. 2568