Last updated: 2 ต.ค. 2568 | 35 จำนวนผู้เข้าชม |
อาการสั่นหรือ tremor คือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจเกิดขึ้นที่มือ แขน ขา ศีรษะ หรือทั่วร่างกาย อาการสั่นที่เกิดขึ้นอาจทำให้การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันลำบาก เช่น การจับช้อน การเขียนหนังสือ หรือการเดิน โดยอาการสั่นนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะทางระบบประสาท ความเครียด เป็นต้น
ในการแพทย์แผนจีน มองว่าอาการสั่นเกิดจากความไม่สมดุลของพลังชี่ เลือด และสารจิงในร่างกาย รวมไปถึงการไม่สมดุลของอวัยวะต่างๆทำให้การไหลเวียนของชี่ตามเส้นลมปราณเกิดการติดขัดจนเกิดลมภายใน(内风)ขึ้น ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นหดเกร็งหรืออ่อนแรงจนเกิดอาการสั่น การรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนจีน จึงไม่เพียงแต่รักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น แต่ยังต้องเน้นการฟื้นฟูสมดุลภายในร่างกายควบคู่กับการรักษาอาการสั่นที่ปลายเหตุ เพื่อปรับการทำงานของอวัยวะและกล้ามเนื้อให้กลับมาเป็นปกติ โดยปกติแล้วอาการสั่นจะสามารถบรรเทาได้ด้วยการทำท่าบริหารยืดเหยียดเพื่อช่วยลดอาการสั่น ร่วมกับการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนเพื่อให้ผลการรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น
อาการสั่นในทางการแพทย์แผนจีน
อาการสั่นในทางการแพทย์แผนจีนสัมพันธ์กับการทำงานของระบบตับ ไต และม้าม การสั่นเกิดจากลมภายในซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยมักพบได้จากหลายสาเหตุเช่น
ตับทำหน้าที่เก็บเลือดและควบคุมเส้นเอ็น หากเลือดของตับพร่อง จะทำให้เส้นเอ็นไม่ได้รับการหล่อเลี้ยง เมื่อเลือดน้อยจึงทำให้เกิดลมภายในขึ้นและทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งจนเกิดอาการสั่นขึ้นได้ นอกจากนีความแปรปรวณทางอารมณ์ อันได้แก่ ความโกรธ เครียด ส่งผลทำให้หยางของตับเพิ่มขึ้นและทำให้เกิดลมภายใน ก็เป็นอีกสาเหตุของการสั่น
ไตเป็นอวัยวะที่เก็บสารจิง ซึ่งเป็นสารจำเป็นของร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงสมองและส่วนต่างๆของร่างกาย หากสารจิงในไตพร่องจะทำให้ ความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวลดลง
ม้ามเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับดูดซึมสารอาหารเพื่อสร้างเลือด หากชี่ของม้ามอ่อนแรง ทำให้การสร้างเลือดไม่เพียงพอไปหล่อเลี้ยงแขนขาจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและสั่นได้
ปัจจัยเหล่านี้ต่างส่งผลให้เกิดลมภายในขึ้นในร่างกายและทำให้เกิดการสั่นขึ้น นอกจากนี้ยังมีสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น ลมเย็น ความเครียด การพักผ่อนไม่พอ หรือการเจ็บป่วยเรื้อรัง ทำให้อาการรุนแรงขึ้นอีกด้วย
การดูแลตัวเอง
การปรับพฤติกรรมช่วยลดอาการสั่นและเสริมการรักษา
1. พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับลึกช่วยบำรุงตับและไต
2. จำกัดอาหาร: เพิ่มผักผลไม้ ลดของมัน ทอด แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และ บุหรี่
3. จัดการความเครียด: ฝึกการหายใจ ทำสมาธิ หรือการยืดเหยียด
4. ออกกำลังเบา ๆ: เดินช้า รำไทเก๊ก เพิ่มการไหลเวียนของชี่และเลือด
การบริหารเพื่อลดอาการสั่น
ท่าบริหารแบบยืดเหยียดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือด และลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
● 1. ยืดแขนตรงไปด้านหน้า หงายมือขึ้นฝ่ามือหันออกนอกตัว เหยียดแขนจนสุดแล้วจับที่ปลายนิ้วชี้
นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ดัดนิ้วลงเพื่อให้รู้สึกตึงทั้งต้นแขนและนิ้วมือ ค้างไว้ 10 วินาที แล้วผ่อน
ทำซ้ำ 5–10 รอบ
2. เหยียดแขนสองข้างขึ้นประสานกันแล้วยืดขึ้นเหนือศีรษะ ให้แขนทั้งสองรู้สึกตึง ค้างไว้ 10 วินาที
แล้วผ่อน ทำซ้ำ 5–10 รอบ
3. คว่ำมือลงฝ่ามือดันออกนอกตัว เหยียดแขนจนสุดแล้วจับที่ปลายนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย
ดัดนิ้วลงเพื่อให้รู้สึกตึงทั้งต้นแขนและนิ้วมือ ค้างไว้ 10 วินาที แล้วผ่อน ทำซ้ำ 5–10 รอบ
● ยืดขา: นั่งเหยียดขาไปข้างหน้าโดยให้เข่าตึง โน้มตัวแตะปลายเท้าช้า ๆ ค้างไว้ 15 วินาที ทำ 5 รอบ
● ยืดคอและศีรษะ: นั่งหลังตรง ก้มศีรษะค้างไว้ 5 วินาที เงยช้าให้สุดๆ ค้างไว้ 5 วินาที
แล้วเอียงซ้ายขวา ทำรอบละ 10 ครั้ง
ฝึกวันละ 10–15 นาที จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดการสั่น ควรทำในเป็นประจำ พร้อมฝึกการหายใจร่วมด้วย
เพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
ที่มา: https://essentialtremor.org/resource/exercise-for-relaxation-improve-lifes-quality/
_______________________________________________________
บทความโดย
ดร.พจ. พีระพงศ์ เลิศนิมิตพันธ์ (หมอจีน เฉิน เจียง เฉิง)
陈江成 中医师
TCM. Dr. Peeraphong Lertnimitphun (Chen Jiang Cheng)
26 ส.ค. 2568
26 ส.ค. 2568
23 ก.ย. 2568