Last updated: 3 พ.ย. 2568 | 37 จำนวนผู้เข้าชม |
สมองเป็นอวัยวะศูนย์กลางระบบประสาท มีหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงการคิด การรับรู้ ความจำ การเคลื่อนไหว อารมณ์ รวมถึงการนอนหลับ สมองมีการทำงานตลอดทั้งวัน ความเครียดและล้าจากการทำงานตลอดเวลาทำให้สมองทำงานได้ไม่สมบูรณ์
ในศาตร์การแพทย์แผนจีนมองว่า ไต มีเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสมอง เนื่องจากไตมีหน้าที่เก็บกักสารจำเป็นจิง (精) และไตจะเปลี่ยนสารจำเป็นจิง เป็นไขกระดูก (骨髓) และส่งขึ้นไปบำรุงสมองซึ่งสมองก็คือทะเลแห่งไขกระดูก (髓之海) ดังนั้นการบำรุงสมองจึงจำเป็นต้องบำรุงให้ไตทำงานได้ดี เพื่อสามารถนำสารจิงไปผลิตเป็นไขกระดูกและขึ้นไปบำรุงสมองได้ หากสารจำเป็นจิงไม่เพียงพอ ชี่ไตพร่องทำให้การสร้างไขกระดูกได้น้อยลง ก็ทำให้สมองทำงานได้ไม่เต็มที่《医林改错》“老人健忘,脑髓渐空,皆因肾精亏。”โดยเมื่อคนอายุมากขึ้นมัก
หลงลืมง่าย สมองขาดไขกระดูกบำรุง เกิดจากสารจำเป็นจิงในไตพร่อง การบำรุงไตและสารจำเป็นจิง จึงสำคัญต่อการบำรุงสมอง
สารจำเป็นจิง ส่วนหนึ่งมีมาตั้งแต่ก่อนกำเนิด โดยได้มาจากพ่อแม่ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหาร กระเพาะและม้ามทำการแปรสภาพเป็นสารอาหารและสารน้ำ ส่งสารจำเป็นมาที่ไตสะสมเป็นสารจิง รวมถึงการหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปก็ช่วยในการสร้างสารจำเป็นจิง ซึ่งถูกนำมากักเก็บไว้ที่ไตเพื่อจะนำไปใช้ต่อไป
เราสามารถปรับวิธีการใช้ชีวิตของเราให้ส่งผลดีต่อการบำรุงไต ได้ด้วยการ
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน โดยปริมาณการดื่มน้ำขั้นต่ำจะคำนวณได้จาก น้ำหนักตัว คูณ30 โดยคิดเป็นมิลลิลิตร เช่นน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ต้องดื่มน้ำอย่างต่ำ 1800มิลลิลิตรหรือ 1.8 ลิตร ต่อวัน (น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม คูณ 30 เป็น 1800 มิลลิลิตร) แต่ไม่เกิน 2100 มิลลิลิตรหรือ 2.1 ลิตรต่อวัน (น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม คูณ 35 เป็น 2100 มิลลิลิตร) สำหรับผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณ น้ำ ที่ต้องดื่มในแต่ละวัน
2. การรับประทานอาหาร ในทางการแพทย์แผนจีนอาหารที่บำรุงไตส่วนใหญ่จะมีสีดำธรรมชาติ เช่น ข้าวกล้อง ถั่วดำ งาดำ เห็ดหูหนูดำ ไก่ดำ หรือจำพวกถั่ว นอกจากนี้ควรลดการกินอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็ม
3. การหายใจ หนึ่งในหน้าที่ของไต ในมุมมองการแพทย์แผนจีนคือการดึงรั้งให้ลมหายใจลง (肾主纳气)ไตเป็นอวัยวะตัน (脏) ที่อยู่ล่างสุด การหายใจให้ลึกจึงต้องใช้การดึงรั้งชี่ของไตร่วมด้วย การฝึกควบคุมหายใจให้เข้าออกลึกๆ ในพื้นที่ที่อากาศบริสุทธิ์ จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นชี่ไตได้ โดยการให้ใจลึกๆให้ตั้งความสนใจที่ท้อง หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบเรียกการหายใจด้วยท้อง
4. เลี่ยงความเครียดหรือกิจกรรมที่ทำให้ตกใจกลัวมากเกินไป ทำร้ายชี่ของไตได้ ส่งผลชี่ของไตพร่อง ปวดเมื่อยเอวขาอ่อนแรง ปัญหาการกลั้นปัสสาวะ รบกวนการเข้านอนหรือการนอนหลับลึก และการเปลี่ยนสารจำเป็นจิงเป็นไขกระดูกได้น้อยลง
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับในทางการแพทย์แผนจีนนอกจากจะเป็นการพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับไตด้วย โดยเฉพาะสารจำเป็นจิงและอินไต โดยการแพทย์แผนจีนมองว่ากลางวันเป็นหยางเหมาะกับการเคลื่อนไหว การทำงานต่างๆ กลางคืนเป็นหยินเหมาะกับการพักผ่อน หากนอนดึกบ่อยทำงานหนักหักโหมบ่อย จะทำให้สารจำเป็นจิงและหยินไตพร่องได้
6. เลี่ยงการมีกิจกรรมทางเพศมากเกินไป การมีกิจกรรมทางเพศจะทำให้เสียสารจำเป็น(จิง) ถ้าหากมีมากเกินไปสารจำเป็นจิงพร่อง ไตไม่สามารถเปลี่ยนเป็นไขกระดูกได้ขึ้นไปบำรุงสมองได้น้อย
___________________________________________________
บทความโดย
แพทย์จีน ธิติ นิลรุ่งรัตนา (หลิน เจีย เฉิง)
林嘉诚 中医师
TCM. Dr. Thiti Nilrungratana (Lin Jia Cheng)
2 ต.ค. 2568
3 พ.ย. 2568
3 พ.ย. 2568