Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 38225 จำนวนผู้เข้าชม |
ท่อนำไข่ตันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยาก เพราะเป็นบริเวณที่อสุจิกับไข่ปฏิสนธิกันก่อนที่จะเคลื่อนตัวลงมาฝังตัวที่มดลูก ถ้าท่อนำไข่ตันส่งผลให้อสุจิไม่สามารถไปพบกับไข่ได้หรือถ้าท่อนำไข่ตีบอสุจิสามารถเล็ดลอดเข้าไปพบและปฏิสนธิกับไข่แต่ไม่สามารถเคลื่อนตัวมาฝังตัวที่มดลูกได้ และเกิดการฝังตัวที่ท่อนำไข่ทำให้เกิดท้องนอกมดลูกจนอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ
ท่อนำไข่ตันจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการมีบุตร ถ้าผู้ป่วยที่ต้องการมีบุตรแต่งงานมานานไม่ตั้งครรภ์แนะนำตรวจท่อนำไข่ด้วยการฉีดสีเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะมีบุตรยาก
ทางแพทย์แผนจีนมีแนวความคิดว่า “ท่อนำไข่ตัน” เกิดจากสาเหตุใหญ่ๆที่แตกต่าง กันอยู่ 2 ประการ ได้แก่
1. เลือด และลมปราณ(ชี่) ติดขัด
2. ความร้อนชื้นคั่งค้าง
ซึ่งหมอจะขออธิบายขยายความเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจหลักการในการวินิจฉัยแบบแพทย์จีน
เลือดและลมปราณ(ชี่)ติดขัด
มักจะเกิดมาจากความเครียด โกรธ หรือ โมโห ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลมปราณ(ชี่) ของตับติดขัด
ตับในศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีหน้าที่ควบคุมและระบายถ่ายเทชี่ทุกส่วนในร่างกาย และสัมพันธ์โดยตรงกับอารมณ์ เมื่อร่างกายเกิดความเครียดขึ้น ชี่ในร่างกายจะไหลเวียนถ่ายเทไม่ดีเกิดการติดขัดรวมทั้งบริเวณท่อนำไข่ จึงส่งผลให้ท่อนำไข่ตีบตัน ลักษณะอาการส่วนใหญ่ของผู้ป่วยก็คือประจำเดือนมักมาช้า เลือดประจำเดือนสีคล้ำ มีก้อนเลือดปน อารมณ์หงุดหงิด คัดหน้าอก ก่อนหรือขณะมีประจำเดือน ช่วงตกไข่อาจมีอาการปวดจี๊ดเหมือนเข็มแทงที่บริเวณท้องน้อยทั้งสองข้าง
ความร้อนชื้นคั่งค้าง
หมายถึง ความร้อนและความชื้นที่เป็นพิษคั่งค้างสะสมอยู่ภายในร่างกายเป็นเวลานาน จึงเกิดเลือดคั่งบริเวณท่อนำไข่ ส่งผลให้ท่อนำไข่ตัน ซึ่งความร้อนชื้นนี้มีสาเหตุจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ขาดสุขอนามัย หรือกินอาหารรสเผ็ดร้อนหรือหวานจัดมากเกินไป หรือเคยมีอาการติดเชื้อ มดลูกอักเสบ เป็นต้น ลักษณะอาการของผู้ป่วยส่วนใหญ่มักพบมีอาการปวดท้องหน่วงๆ ซึ่งไม่ใช่ขณะมีประจำเดือน มักมีตกขาวร่วมด้วย
แพทย์จีน ธนภร ตันสกุล (เฉิน รุ่ย อิ๋น)
คลินิกอายุรกรรมนรีเวช-บุรุษเวช
25 ก.ย. 2567
25 ต.ค. 2567